
เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (6 พ.ย.) ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดียจาก HSBC ประจำเดือนต.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 58.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 60.9 ในเดือนก.ย. โดยมีสาเหตุจากแรงกดดันด้านการแข่งขันในภาคบริการและฝนที่ตกหนักซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นที่ระดับ 58.8
ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างการขยายตัวกับการหดตัว ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 51 และยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว ซึ่งบ่งชี้ว่าสภาวะพื้นฐานของภาคบริการยังคงแข็งแกร่งแม้ชะลอตัวลง
การชะลอตัวของอุปสงค์เป็นปัจจัยหลักที่ฉุดรั้งการเติบโต โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่แม้ยังอยู่ในระดับสูง แต่ก็ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า การเติบโตที่ถูกจำกัดนี้เป็นผลจากการแข่งขันที่สูงขึ้น ประกอบกับปัญหาน้ำท่วมและดินถล่มในบางพื้นที่ของประเทศ
ขณะเดียวกัน อุปสงค์จากต่างประเทศก็อ่อนแอลง โดยคำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออกขยายตัวในอัตราที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 7 เดือน ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเกี่ยวกับแนวโน้มในอีก 1 ปีข้างหน้าปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน แม้ยังคงแข็งแกร่งก็ตาม ส่วนความต้องการจ้างงานยังคงซบเซา โดยอัตราการสร้างงานอยู่ในระดับชะลอตัวที่สุดในรอบ 18 เดือน
อย่างไรก็ดี ต้นทุนปัจจัยการผลิตเพิ่มขึ้นในอัตราช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 โดยบริษัทต่าง ๆ ระบุว่า การลดภาษีสินค้าและบริการ (GST) ช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านราคา ส่งผลให้บริษัทสามารถส่งผ่านต้นทุนที่ลดลงไปยังผู้บริโภค ทำให้ราคาที่เรียกเก็บจากการบริการเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวที่สุดในรอบ 7 เดือน
สำหรับดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดียจาก HSBC ปรับตัวลงสู่ระดับ 60.4 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จาก 61.0 ในเดือนก.ย. โดยผลสำรวจชี้ชัดว่าการชะลอตัวดังกล่าวนำโดยภาคบริการเป็นหลัก ขณะที่ภาคการผลิตมีการขยายตัวที่รวดเร็วยิ่งขึ้นทั้งในด้านผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 68)





