
สำนักงานศุลกากรของจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ (7 พ.ย.) ว่า ยอดส่งออกปรับตัวลง 1.1% ในเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3% นอกจากนี้ ยอดส่งออกของจีนยังปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2567 เทียบกับในเดือนก.ย.ที่ยอดส่งออกพุ่งขึ้น 8.3% ซึ่งแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 เดือน
ปัจจัยที่ทำให้ยอดส่งออกของจีนลดลงในเดือนต.ค.นั้น มาจากกระแสเร่งการส่งออกล่วงหน้าของภาคธุรกิจได้แผ่วลง รวมทั้งผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในเดือนดังกล่าว ก่อนที่ทั้งสองประเทศจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในเวลาต่อมา
การส่งออกสินค้าจากจีนไปยังสหรัฐฯ ลดลงกว่า 25% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงติดต่อกันเดือนที่ 7 ขณะที่ยอดส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ ปรับตัวลงเช่นกัน โดยยอดส่งออกไปยังเกาหลีใต้ รัสเซีย แคนาดา ต่างก็ปรับตัวลงในอัตราเลขหลักสิบ
ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 1% ในเดือนต.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2% และชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ย.ที่พุ่งขึ้น 7.4% เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งชะลอตัวลงเป็นเวลานานและตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องนั้น ได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 68)





