รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการหรือเข้าซื้อกิจการระหว่างบริษัทเรียกรถและจัดส่งอาหารรายใหญ่ แกร็บ (Grab) และ โกทู (GoTo) ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาด โดยโฆษกประจำสำนักประธานาธิบดีเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ย.) ว่า การตัดสินใจเรื่องดังกล่าวจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้
รัฐบาลมองว่า อุตสาหกรรมบริการเรียกรถเป็นภาคส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่ช่วยสร้างงานจำนวนมากและมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ปัจจุบัน ธุรกิจโกเจ็ก (Gojek) ของโกทูมีผู้ขับขี่ที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์กว่า 3.1 ล้านคน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขนาดของอุตสาหกรรมนี้ในอินโดนีเซีย
ข้อมูลจากบริษัทวิจัย Euromonitor International ระบุว่า หากทั้งสองบริษัทควบรวมกัน จะมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันมากกว่า 91%
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า แกร็บซึ่งจดทะเบียนในตลาด Nasdaq เคยอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อโกทูในไตรมาส 2 ของปี 2568 และได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการเรื่องดังกล่าว โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า ข้อตกลงนี้อาจประเมินมูลค่าโกทูไว้ราว 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตามรายงานประจำปี 2567 ของโกทูนั้น บริษัทมีผู้ถือหุ้นต่างชาติรวม 73.90% ซึ่งได้แก่ ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป (SoftBank Group) และ เถาเป่า ไชน่า โฮลดิง (Taobao China Holding) หน่วยงานหนึ่งของอาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) และส่วนที่เหลือเป็นของผู้ถือหุ้นชาวอินโดนีเซีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 68)
