นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป [A5] เปิดเผยผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 68 บริษัทมีรายได้รวม 1,048.52 ล้านบาท ลดลง 29.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 107.18 ล้านบาท ลดลง 78.08%YoY จากการลดลงของการโอนกรรมสิทธิ์ รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมค้าที่ลดลง อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ Cinq Royal The Eighteen Bangna KM.7 และ VANA Ratchapruek-Westville ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/68 บริษัทมีรายได้รวม 350.06 ล้านบาท ลดลง 27.33% YoY และมีกำไรสุทธิ 5.96 ล้านบาท ลดลง 96.67% YoY โดยผลการดำเนินงานปรับตัวลดลงจากการขายที่ดินของบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (One-Time Expenses)
อย่างไรก็ตาม การขายที่ดินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการลดภาระหนี้สินและดอกเบี้ยจ่ายในอนาคต ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio) ปรับตัวดีขึ้น เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/68 เป็นต้นไป
“A5 ยังคงรักษาฐานรายได้และสภาพคล่องได้อย่างมั่นคง สะท้อนถึงโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้าในแบรนด์ A5 ซึ่งเข้าใจตลาดลักชัวรีอย่างลึกซึ้ง และสามารถส่งมอบคุณค่าได้ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับบนอย่างแท้จริง” นายศุภโชค กล่าว
ด้านกลยุทธ์การตลาด A5 ยังคงเดินหน้าเชิงรุกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เพื่อกระตุ้นยอดขายและขยายฐานลูกค้าคุณภาพ ผ่าน 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่
1. การพัฒนาโครงการในทำเลและรูปแบบที่ตอบโจทย์จริง เลือกทำเลที่มีศักยภาพสูง และเน้นการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น ฟังก์ชันครบ และวัสดุคุณภาพดี เพื่อให้ใช้ชีวิตได้สะดวกและยั่งยืนในระยะยาว
2. การสร้างแบรนด์ลักชัวรีที่ชัดเจนและมีจุดยืน สื่อสารภาพลักษณ์ความหรูหราที่เกิดจากคุณภาพและการใส่ใจในรายละเอียด ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ เห็นได้จากแบรนด์ใหม่ Cinquime ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์เรื่อง “ความเป็นส่วนตัว” และ “พื้นที่ใช้ชีวิตภายในบ้าน” อย่างแท้จริง
3. การตลาดแบบตรงกลุ่มและมีประสิทธิภาพ ใช้แนวทาง Data-Driven Marketing เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อจริง โดยเน้นการสื่อสารที่ตรงประเด็นและเหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
นอกจากนี้ A5 ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่สามารถสร้างรายได้และกระแสเงินสดหมุนเวียนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมศึกษาธุรกิจใหม่เพื่อสร้าง Recurring Income เพิ่มความมั่นคงในระยะยาว โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 2569
ทั้งนี้ A5 มียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 630 ล้านบาท (ณ 31 ต.ค.68) จากโครงการ CINQ ROYAL The Eighteen Bangna KM.7, โครงการ VANA Ratchapruek-Westville และโครงการ Cinquime Krungthep Kreetha โครงการใหม่ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี มียอดขายแล้วกว่า 40% ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์หลังเปิดขายอย่างเป็นทางการ และโครงการเอกมันตราอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/68 เป็นต้นไป หนุนให้รายได้ของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง และตอกย้ำความมั่นคงของธุรกิจในระยะยาว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)
