นายธงชัย ปามิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เกรซ วอเทอร์ เมด [GWM25] กล่าวว่า จากกรณีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติเห็นชอบในหลักการของร่างแผนและมาตรการในประกาศสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขกรณีบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังด้วยการบำบัดทดแทนไต พ.ศ. 2568 (ฉบับที่ 2) เพื่อรองรับนโยบายฟอกไตฟรีทุกแห่งรวมถึงห้ามหน่วยบริการเรียกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากผู้ป่วยไม่ว่ากรณีใดก็ตาม และเปิดสิทธิ์ให้ผู้ป่วยรายเก่าที่ต้องจ่ายเงินเองยื่นอุทธรณ์ขอเปลี่ยนวิธีได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีประชาชนผู้ป่วยโรคไตจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่
จากร่างแผนดังกล่าวผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะสามารถเลือกเข้ารับบริการบำบัดทดแทนไตได้ตามความเหมาะสมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผู้ป่วยเลือกวิธีการฟอกเลือด (HD) เพิ่มขึ้น จากเดิมกำหนดให้ผู้ป่วยทุกรายต้องทำการล้างไตทางช่องท้องเป็นทางเลือกแรก (PD First) ทั้งการล้างไตทางช่องท้องด้วยตนเอง (PD) รวมถึงการใช้เครื่องล้างไตทางช่องท้องอัตโนมัติ (APD) ซึ่งหากผู้ป่วยปฏิเสธและต้องการวิธีการฟอกเลือด (HD) จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
“จากประกาศฉบับใหม่นี้จะส่งผลบวกต่อ เกรซ วอเทอร์ เมด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ซึ่งคาดว่าจะทำให้ยอดการฟอกเลือดเพิ่มสูงขึ้น เพราะจะมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ทำ PD อยู่ แม้ไม่ใช่วิธีที่ตนเองอยากเลือกจะเปลี่ยนมาทำ HD ได้ตามต้องการ และผู้ป่วยที่ปฏิเสธการทำ PD โดยยอมจ่ายค่า HD เอง เมื่อสปสช.กลับมาจ่ายค่า HD ให้จะทำให้การฟอกเลือดทำได้ต่อเนื่อง รวมถึงผู้ป่วยรายใหม่มีสิทธิ์เลือก HD ได้ตั้งแต่แรกโดยไม่ถูกบังคับทำ PD”นายธงชัย กล่าว
นอกจากนี้ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ก็มีนโยบายให้ทุกโรงพยาบาลพัฒนาศักยภาพ ยกระดับบริการให้สามารถตอบสนองความต้องการและเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด จึงมีการจัดสรรงบประมาณให้กับหลายๆโรงพยาบาลในการก่อสร้างทั้งอาคารหลังใหม่รวมไปถึงการขยาย หรือปรับปรุงการให้บริการโดยเฉพาะหน่วยไตเทียมที่มีประชาชนมารับบริการเป็นจำนวนมากโดยมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 2 หมื่นคนต่อปีเป็นอย่างน้อย ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ประชาชนผู้ป่วยโรคไตได้เข้าถึงการรักษารวดเร็วมากขึ้น รวมถึงส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมและธุรกิจไตเทียมให้เติบโตต่อเนื่องเช่นกัน
บริษัทประเมินแนวโน้มธุรกิจปีนี้เติบโตต่อเนื่อง เป็นไปตามเป้าหมายรายได้ไม่ต่ำกว่า 180 ล้านบาท จากการขยายฐานลูกค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งสินค้าน้ำยาฟอกไต เวชภัณฑ์ และสินค้า Innovative Products การให้บริการระบบบำบัดน้ำเสียแก่ศูนย์ฟอกไต รวมถึงอานิสงค์จากนโยบายภาครัฐที่ให้การสนับสนุนและให้ความสำคัญกับผู้ป่วยโรคไต โดยในไตรมาส 4/68 นี้ บริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า และพันธมิตรรายใหม่หลายราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้
ขณะที่ในปี 69 บริษัทฯ มีแผนจะเปิดศูนย์ฟอกไต 1-2 แห่ง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและคาดว่าภายในปี 70 จะเปิดศูนย์ฟอกไตครบ 10 แห่ง พร้อมมั่นใจจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้ภายในปี 71
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)
