
จีนเรียกร้องให้ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แก้ไขและถอนคำพูดที่ “เลวร้าย” เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะใช้สิทธิป้องกันตนเองร่วมในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินกับไต้หวัน พร้อมเตือนว่า ญี่ปุ่นจะต้อง “แบกรับผลที่ตามมาทั้งหมด”
หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าววันนี้ (13 พ.ย.) ว่า “หากญี่ปุ่นกล้าแทรกแซงด้วยการใช้กำลังอาวุธในช่องแคบไต้หวัน นั่นจะถือเป็นการรุกราน และจีนจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด”
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (7 พ.ย.) ทาคาอิจิได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการรัฐสภาว่า การโจมตีทางทหารของจีนต่อไต้หวันอาจเป็น “สถานการณ์ที่คุกคามการอยู่รอด” สำหรับญี่ปุ่น ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้สิทธิป้องกันตนเองร่วม (collective self-defense)
ถ้อยแถลงของนายกฯ ญี่ปุ่นเกี่ยวกับไต้หวันได้จุดชนวนให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านอย่างรุนแรงจากรัฐบาลปักกิ่ง โดยเสวีย เจี้ยน กงสุลใหญ่จีน ณ นครโอซากา ได้โพสต์ข้อความข่มขู่บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์เมื่อวันเสาร์ว่า จะ “ตัดคอสกปรกทิ้งโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว” ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกลบออกไป
หลิน เจี้ยน ย้ำว่า โพสต์บนโซเชียลมีเดียของนักการทูตจีนเป็นการตอบโต้ความคิดเห็นที่ “ผิดและอันตราย” ของทาคาอิจิ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่น “ทบทวนคำพูดที่ผิดพลาดของตนเอง” เกี่ยวกับไต้หวัน
ทั้งนี้ จีนและไต้หวันปกครองแยกจากกันนับตั้งแต่ที่ทั้งสองฝ่ายถูกแบ่งแยกโดยสงครามกลางเมืองเมื่อปีพ.ศ. 2492 โดยจีนมองว่า ไต้หวันเป็นมณฑลที่แยกตัวออกไป และจะถูกรวมเข้ากับแผ่นดินใหญ่ด้วยการใช้กำลังหากจำเป็น นอกจากนี้ จีนยังมองว่าประเด็นเกี่ยวกับไต้หวันเป็น “กิจการภายใน” ของจีน และไม่ยอมให้ต่างชาติเข้าแทรกแซงอย่างเด็ดขาด
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่น “ยุติการแทรกแซงกิจการภายในของจีนโดยทันที” พร้อมเตือนว่า “คนที่เล่นกับไฟจะถูกไฟเผา”
ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นสัปดาห์ ทาคาอิจิปฏิเสธที่จะถอนคำพูดของตนเอง โดยกล่าวว่า เธอพูดจากสมมติฐานในกรณีที่เกิดสถานการณ์เลวร้ายที่สุด และคำพูดเหล่านั้นไม่ได้ขัดแย้งกับจุดยืนของรัฐบาลญี่ปุ่นชุดก่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)





