นายณรงค์ฤทธิ์ ชัยยะราษฎร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกลยุทธ์ นโยบาย และพัฒนาธุรกิจ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง [SPRC] กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในไตรมาส 4/68 บริษัทยังมุ่งมั่นเพิ่มการผลิตและปริมาณการขายสูงสุด เพื่อใช้ประโยชน์จากค่าการกลั่น (GRM) มุ่งเน้นการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งเตรียมความพร้อมก่อนการซ่อมบำรุงใหญ่ในไตรมาส 1/69
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและการเพิ่มประสิทธิภาพให้โรงกลั่นทั้งหมดราว 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจะบันทึกในงบการเงินในปี 68-69 ราว 50 ล้านเหรียญสเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายบางส่วนบันทึกเข้าไปแล้วในงวด 9 เดือนของปี 68 แล้ว
ขณะที่ธุรกิจ Commercial ปัจจุบันมีการพูดคุยกับพันมิตรหลายราย โดยสถานีบริการ Caltex มีความพร้อมที่จะสนับสนุนและร่วมมือกับพันธมิตรที่ต้องการช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าและบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยปัจจุบันสถานีบริการ Caltex มีอยู่ 530 สถานี ทั้งนี้บริษัทมุ่งเน้นการขยายยอดขายผ่านสถานีบริการที่มีอยู่ให้มีการเติบโต 10% ต่อปี ซึ่งการมุ่งเน้นเพิ่มยอดขายจากสถานีที่มีอยู่ทำให้สามารถลดต้นทุนในการลงทุนขยายสถานีบริการได้
สำหรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต ประกอบด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานผ่านการรวมธุรกิจระหว่างธุรกิจโรงกลั่นและการตลาด โดยกลยุทธ์ระยะสั้น บริษัทยังรักษาวินัยทางการเงินอย่างเข้มงวด การบริหารกระแสเงินสด และการบริหารจัดการเงินลงทุนให้เกิดประสิทธิภาพให้มากที่สุด การลงทุนเพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและประสิทธิภาพการดำเนินงานผ่านการปรับปรุงวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ขั้นสูง
ขณะที่ปัจจัยที่จะขับเคลื่อนการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต ได้แก่ การให้ความสำคัญกับธุรกิจค้าปลีกผ่านช่องทางสถานีบริการของบริษัท ซึ่งสร้างอัตรากำไรขั้นต้นให้กับบริษัทสูงที่สุด ขณะเดียวกันบริษัทจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจค้าปลีกให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และทำให้บริษัทสามารถขายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางของบริษัทได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายไปยังตลาดในภูมิภาคที่มีศักยภาพ
ปัจจุบันโรงกลั่น SPRC มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ผ่านประเทศในกลุ่มอาเซียน อาทิ สปป.ลาว สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นการขายระยะสั้น โดยบริษัทพยายามเพิ่มมูลค่าการขายโดยการมุ่งเน้นการขยายระยะยาวมากขึ้น โดยได้มีการพูดคุยกับลูกค้าต่อเนื่อง
SPRC รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/68 มีรายได้รวม 1,896.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิ 48.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พลิกจากการขาดทุนสุทธิ 24.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ผ่านมา การปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวนี้ ได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นของทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมันและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 6.33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาสที่ 2/68 เป็น 6.85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 3/68 โดยค่าการกลั่นของธุรกิจการกลั่นน้ำมันปรับตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นของราคาการกลั่นผลิตภัณฑ์กลั่นกลุ่มกลาง (น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานและน้ำมันดีเซล) ประกอบกับ กำไรจากสต๊อกน้ำมันเนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง ในขณะเดียวกัน ธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมก็สร้างผลกำไรที่สูงขึ้นควบคู่ไปกับการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรโดยรวมอยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายเฮอร์เบิร์ต แมทธิว เพนน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ SPRC กล่าวว่า SPRC ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทฯ และสร้างเสริมความเป็นเลิศในการดำเนินงาน เพื่อสร้างคุณค่าสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น บริษัทฯ ยังคงพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและความคล่องตัวในการจัดการน้ำมันดิบ และเตรียมพร้อมสำหรับการซ่อมบำรุงใหญ่ในปี 2569 (Turn Around and Inspection -T&I) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)
