นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล [XPG] กล่าวว่า บริษัทได้รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 มีรายได้รวม 245.94 ล้านบาท ขณะเดียวกันมีกำไรสุทธิ 67.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้การรายงานผลการดำเนินงานดังกล่าวเป็นการเติบโตต่อเนื่องมาจากครึ่งปีแรกที่ทำกำไรได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้รวม 9 เดือนของปี 68 มีรายได้รวม 708.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 156.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากรายได้การปล่อยสินเชื่อที่เติบโตดีในจังหวะสถาบันการเงินขนาดใหญ่ระมัดระวังการปล่อยกู้ เปิดช่องลูกค้าตบเท้าใช้บริการเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมจาก บลจ.เอ็กซ์สปริง จากการเปิดกองทุนใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ขณะที่รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก บล.กรุงไทย เอกซ์สปริง ที่ครองส่วนแบ่ง DR ที่ 20% อันดับหนึ่งในตลาดหนุนผลงานเติบโตโดดเด่น
สำหรับปี 68 เป็นปีที่การดำเนินธุรกิจของ XSPRING เริ่มเข้าสู่ช่วงของการเก็บเกี่ยวหลังจากที่เมื่อ 2-3 ปี ก่อนหน้าเป็นช่วงของการลงทุน ซึ่งปีนี้ XPG ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้แนวคิด “Resilient Growth in a Challenging Landscape” ก้าวอย่างมั่นคงท่ามกลางความผันผวนของตลาด ด้วยผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบโจทย์ทั้งภาคธุรกิจที่ต้องการเงินทุนและนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนที่ยั่งยืน จึงส่งผลให้ปีนี้ผลการดำเนินงานอยู่ในทิศทางขาขึ้น
ปัจจัยสนับสนุนให้ไตรมาส 3/68 มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มาจากการมองหาโอกาสการเติบโตที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น เช่น ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ ที่บริษัทได้พัฒนาหลักการวิเคราะห์สินเชื่อและ การใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการเข้าใจธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในอนาคตและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจพลังงานสะอาด และธุรกิจที่เกี่ยวกับความยั่งยืน พร้อมกลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อระยะสั้นให้กับธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินกิจการช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่มีอัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ การดำเนินธุรกิจของบริษัทลูกยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 68 นำโดย บลจ.เอ็กซ์สปริง (XSpring AM) ซึ่งได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนในภาวะเศรษฐกิจผันผวน โดยในไตรมาสที่ 3/2568 บริษัทฯ ได้เปิดขาย “กองทุนเปิดเอ็กซ์สปริงตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่” (X-EMBOND) ที่มุ่งเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก เพื่อกระจายความเสี่ยงและรับโอกาสจากภาวะดอกเบี้ยขาลง ขณะที่ในไตรมาสที่ 4/68
บริษัทยังเปิดขายกองทุนเปิดเอ็กซ์สปริงควอนตัมคอมพิวเตอร์” (X-QUANTUM) ซึ่งเน้นลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีควอนตัมและนวัตกรรมการคำนวณขั้นสูง โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเอ็กซ์สปริงศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล อิควิตี้ (X-DATACENEQ) ซึ่งเป็นกองทุนรวมฟีดเดอร์ที่ลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับศูนย์ข้อมูล (Data Center) และเสาสัญญาณโทรคมนาคม (Cellular Tower) เพื่อสอดรับกับเมกะเทรนด์ด้านดิจิทัลและความต้องการโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องสะท้อนถึง กลยุทธ์ระยะยาวของกลุ่มเอ็กซ์สปริง ที่มุ่งสร้าง “พอร์ตสินทรัพย์แห่งอนาคต” (Portfolio of the Future) โดยผสานศักยภาพการลงทุนกับเทรนด์เทคโนโลยีระดับโลก เพื่อเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับนักลงทุนและองค์กร
ขณะเดียวกันบริษัทยังรับรู้กำไรจากการถือหุ้น 49.71% ในบล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) ที่แม้รายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จะได้รับผลกระทบจากมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับทิศทางตลาด และพัฒนาเครื่องมือการลงทุนที่ตอบโจทย์นักลงทุนยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt: DR) ที่กำลังได้รับความนิยม และเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยสูงถึง 580 ล้านบาทต่อวัน ปัจจุบัน KTX ถือว่าเป็นผู้นำในตลาดการขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 20%
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/68 XSPRING มั่นใจว่าจะสร้างผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยนอกจากจะได้รับแรงส่งจากธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งจาก XSpring AM ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการเป็นนายหน้าจำหน่ายกองทุนรวมให้กับพันธมิตรในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งถือเป็นไฮซีซั่นของการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัวกองทุนใหม่ที่เน้นการลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคตเพื่อขยายฐานนักลงทุน
ขณะเดียวกัน บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XSpring Digital) เตรียมเสนอขาย โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “SiriHub2” ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดจากความสำเร็จของ SiriHub Token รุ่นแรก ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยคาดว่าโครงการใหม่นี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างกว้างขวางเช่นเดียวกัน สะท้อนถึงศักยภาพของ XSPRING ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการเงินและต่อยอดโอกาสการลงทุนในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 68)
