เศรษฐกิจอิสราเอลโตแกร่งเกินคาด 12.4% ใน Q3/68 หลังการลงทุนฟื้นตัว

สำนักงานสถิติกลางของอิสราเอลรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอิสราเอล ขยายตัว 12.4% ในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 7.3% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของลงทุนในสินทรัพย์ถาวร

เศรษฐกิจของอิสราเอลขยายตัวแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3 โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากทรุดลงอย่างหนักจากผลกระทบของสงคราม 12 วันระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ยังเกิดขึ้นก่อนที่อิสราเอลจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซากับกลุ่มฮามาสในช่วงกลางเดือนต.ค.

สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เช่น สิ่งปลูกสร้างและเครื่องจักร พุ่งขึ้น 36.9% ในไตรมาส 3 ซึ่งฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลง 12.8% ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่การส่งออกพุ่งขึ้น 23.3% การใช้จ่ายภาคเอกชนทะยานขึ้น 23% และการใช้จ่ายภาครัฐปรับตัวขึ้น 4.4% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้

ทั้งนี้ อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการยุติสงครามสองปีในฉนวนกาซาที่มีสาเหตุมาจากการที่กลุ่มฮามาสบุกเข้าโจมตีอิสราเอลในเดือนต.ค. 2566 โดยตัวประกันชาวอิสราเอลเกือบทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวเพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ และอิสราเอลได้ถอนกำลังทหารไปอยู่หลัง “แนวสีเหลือง” (yellow line) ซึ่งเป็นแนวที่กำหนดให้พื้นที่ปาเลสไตน์ประมาณครึ่งหนึ่งยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล

ตลาดหุ้นอิสราเอลดีดตัวขึ้นโดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า ภัยคุกคามด้านความมั่นคงได้บรรเทาลงแล้ว และสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในเชิงบวก เช่น มีการขยายข้อตกลงอับราฮัม (Abraham Accords) โดยดัชนี Tel Aviv 35 พุ่งขึ้น 51.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 68)