สองบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำอย่าง มูดี้ส์ เรทติ้งส์ (Moody’s Ratings) และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P Global Ratings) ต่างก็คาดการณ์ว่า อันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์จะไม่ได้รับผลกระทบภายใต้การดูแลเศรษฐกิจโดยรัฐมนตรีคลังคนใหม่ เนื่องจากเชื่อว่าฟิลิปปินส์จะมีความต่อเนื่องด้านนโยบาย โดยสถาบันทั้งสองแห่งได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ในระดับลงทุน (Investment Grade)
มูดี้ส์ระบุว่า การปรับทีมเศรษฐกิจของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ และการแต่งตั้งเฟรเดอริก โก ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่นั้น ไม่น่าจะทำให้มูดี้ส์เปลี่ยนแปลงการประเมินความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจหรือการคลังของฟิลิปปินส์ ตลอดจนอันดับความน่าเชื่อถือโดยรวมของฟิลิปปินส์อย่างมีนัยสำคัญ
“เราคาดว่าจะมีความต่อเนื่องทางนโยบายเป็นวงกว้างภายใต้รัฐบาลของมาร์กอส” ยัง คิม ผู้ช่วยรองประธานของมูดี้ส์ในสิงคโปร์กล่าว โดยมูดี้ส์ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์อยู่ในระดับสูงกว่าระดับขยะ (Junk) สองขั้น
ทางด้านเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ระบุว่า เหตุการณ์ทางการเมืองไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อทิศทางนโยบายโดยรวมของประเทศ โดยอี้ฟาน พัว ผู้อำนวยการของเอสแอนด์พีในสิงคโปร์คาดการณ์ว่า เหตุการณ์เกี่ยวกับการทุจริตโครงการควบคุมน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ จะไม่นำไปสู่ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ราล์ฟ เรคโตซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังในขณะนั้น ได้แถลงต่อวุฒิสภาว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์สูญเสียงบประมาณที่ใช้สำหรับโครงการป้องกันน้ำท่วมไปกับการทุจริตมากถึง 70% ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
ปธน.มาร์กอสได้ปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อต้นสัปดาห์นี้ หลังจากเลขาธิการบริหารและหัวหน้าฝ่ายงบประมาณของเขาลาออก ซึ่งบุคคลทั้งสองมีส่วนพัวพันกับคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตเป็นวงกว้าง ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับประเทศ โดยเฟรเดอริก โก ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีคลังแทนเรคโต ซึ่งได้รับมอบหมายให้เข้ามาดำรงตำแหน่งเลขาธิการบริหารคนใหม่
ภายใต้การบริหารของเรคโตนั้น ฟิลิปปินส์ได้ปรับขึ้นภาษีเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นรายได้ ในขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าที่จะลดการขาดดุลงบประมาณภายในปี 2571 ขณะที่โกได้ให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมความเข้มแข็งทางการคลังและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 68)
