สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ภายใต้การนำของพรรครีพับลิกัน ลงมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันพุธ (19 พ.ย.) ให้เพิกถอนข้อกำหนดเจ้าปัญหาที่เปิดช่องให้สว.ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าหน้าที่รัฐได้สูงถึง 500,000 ดอลลาร์ หากถูกตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์โดยไม่แจ้งล่วงหน้า มตินี้นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่ตอกย้ำความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทั้งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งเริ่มวาระสมัยที่สองได้เพียง 10 เดือน
ข้อกำหนดของวุฒิสภาที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักนี้ ถูกสอดไส้มาในกฎหมายงบประมาณฉบับอื่นที่เพิ่งผ่านสภาไปเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเนื้อหาเอื้อให้สว.พรรครีพับลิกัน 8 คน สามารถเรียกค่าเสียหายรวมหลายล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการสอบสวนของรัฐบาลชุดก่อน (โจ ไบเดน) ในคดีเหตุจลาจลบุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564
สส.ทั้ง 426 คน จากทั้งรีพับลิกันและเดโมแครต โหวตคว่ำข้อกำหนดนี้อย่างพร้อมเพรียง ซึ่งถือเป็นการกดดันให้วุฒิสภาต้องนำเรื่องกลับไปพิจารณาใหม่ แม้ก่อนหน้านี้ จอห์น ธูน ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา จะออกมาปกป้องว่าเป็นเกราะป้องกันจำเป็น เพื่อไม่ให้ฝ่ายบริหารก้าวก่ายอำนาจนิติบัญญัติก็ตาม
“เดี๋ยวเราก็จะได้เห็นกันว่าเพื่อนสมาชิกในวุฒิสภาจะเอายังไงต่อ” ธูนกล่าวกับผู้สื่อข่าว “ตอนนี้มีความตื่นตัวสูงมากเรื่องการที่รัฐบาลกลางถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมือง ซึ่งในเคสนี้ก็คือกระทรวงยุติธรรมสมัยไบเดน”
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่าเขารู้สึกช็อกและโกรธเมื่อเห็นข้อกำหนดดังกล่าวของวุฒิสภา และเรียกร้องให้ยกเลิกทันที โดยระบุว่าต้องแก้ถ้อยคำกฎหมายเพราะเรื่องนี้ “ดูน่าเกลียด” ในสายตาสาธารณชน
บรรดาสส.จากทั้งสองพรรคต่างรุมสับข้อกำหนดนี้ว่าเป็นเหมือนแผนหาเงินเข้ากระเป๋าของนักการเมืองที่ไม่อาจยอมรับได้ โดยมีการพาดพิงถึงสว.ลินด์ซีย์ เกรแฮม จากพรรครีพับลิกัน ที่เคยประกาศก้องว่าจะฟ้องกระทรวงยุติธรรมเพื่อเรียกเงิน “หลายสิบล้านดอลลาร์”
ออสติน สกอตต์ สส.รีพับลิกันผู้เสนอญัตติให้ยกเลิก ถึงขั้นระบุว่าข้อกำหนดของวุฒิสภานั้น “น่าจะเป็นกฎหมายที่เห็นแก่ตัวและเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางที่สุด เท่าที่ผมเคยเห็นมา”
ทั้งนี้ เมื่อเดือนก่อน นิวยอร์กไทมส์ (NYT) รายงานว่า ตัวปธน.ทรัมป์เองก็กำลังเรียกร้องเงิน 230 ล้านดอลลาร์จากกระทรวงยุติธรรม เป็นค่าใช้จ่ายทางกฎหมายจากการถูกสอบสวน
ฝั่งเดโมแครตตั้งข้อสังเกตว่า สว. 8 คนที่อยากฟ้องเรียกเงินรัฐนี้ คือกลุ่มเดียวกับที่เคยสนับสนุนทรัมป์ในการล้มล้างผลเลือกตั้งปี 2563
“คนพวกนี้คือสว.ที่อาจจะรู้เห็น หรือกระทั่งร่วมขบวนการล้มผลเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 ขบวนการที่นำไปสู่ความรุนแรงในการโจมตีสถาบันแห่งนี้” โจเซฟ มอเรลล์ สส.เดโมแครต กล่าว
แม้ประธานสภาล่างจะเดือดดาล แต่ทางฝั่งวุฒิสภา จอห์น ธูน ยังพยายามลดกระแสความขัดแย้ง โดยบอกนักข่าวว่า “โดยรวมแล้ว ผมว่าเรายังทำงานร่วมกันได้แข็งแกร่งดีเยี่ยม”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 68)
