ธนาคารกสิกรไทย [KBANK] มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (24-28 พ.ย. 2568) ที่ระดับ 32.20-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลการส่งออกและรายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนต.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก
ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม ประกอบด้วยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต และยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนต.ค. ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ และรายงาน Beige Book ของเฟด
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย ตลาดทยอยลดโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมรอบสุดท้ายของปี เงินบาทขยับอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงต้น-กลางสัปดาห์หลังตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาส 3/2568 ชะลอลงมากกว่าที่คาด ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อคืนเพื่อปรับโพสิชั่นของนักลงทุน
ประกอบกับท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟดและบันทึกการประชุมเฟดที่เปิดเผยออกมาในระหว่างสัปดาห์กระตุ้นให้ตลาดทยอยตัดโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC เดือนธ.ค. นี้ลงมา
เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่า และทดสอบแนว 32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงท้ายสัปดาห์ตามการอ่อนค่าของเงินเยน (จากการคาดการณ์ว่า BOJจะยังไม่ส่งสัญญาณคุมเข้มดอกเบี้ยในระยะใกล้ ๆ นี้)และการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก
ในวันศุกร์ที่ 21 พ.ย. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (14 พ.ย.)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 17-21 พ.ย. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 3,515 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 2,860 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 2,860 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ย. 68)
