ราคากาแฟโลกร่วงลงในวันศุกร์ (21 พ.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเลิกอัตราภาษี 40% สำหรับการนำเข้าสินค้าการเกษตรหลายรายการจากบราซิล รวมถึงเมล็ดกาแฟดิบ การยกเลิกภาษีครั้งนี้ทำให้ตลาดคาดว่าเมล็ดกาแฟบราซิลจะไหลเข้าสู่สต็อกกาแฟที่ขาดแคลนของสหรัฐฯ ได้อย่างรวดเร็ว
บราซิลเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลกและส่งออกไปยังสหรัฐฯ ประมาณ 1 ใน 3 ของความต้องการทั้งหมด ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์มีขึ้นหลังจากมีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเพื่อปรับลดภาษีนำเข้ากาแฟและสินค้าหลายรายการจากประเทศผู้ผลิต
ราคากาแฟขายปลีกในสหรัฐฯ ปรับขึ้นถึง 40% เมื่อเดือนก.ย. ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาษีนำเข้า และผลสำรวจชี้ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระดับความนิยมของทรัมป์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลับเข้าดำรงตำแหน่ง
สัญญากาแฟอาราบิกาในตลาด ICE ปิดร่วงเกือบ 2% แตะ 3.6945 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ หลังจากก่อนหน้านี้ร่วงลงมากกว่า 6% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ส่วนสัญญากาแฟโรบัสตาซึ่งมักใช้ในกาแฟสำเร็จรูปมากกว่าอาราบิกา ร่วงลง 2.7% แตะ 4,506 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน หลังจากก่อนหน้านี้ร่วงลง 8%
ผู้ค้ากาแฟรายหนึ่งในยุโรปกล่าวว่า ตลาดยังต้องใช้เวลาปรับตัวรับข่าวนี้ การปรับตัวลงของราคาอาจเกิดขึ้นอีก แต่เขาไม่เชื่อว่าราคาจะลดต่ำกว่า 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ ทั้งนี้ ปัญหาขาดแคลนเมล็ดกาแฟอาราบิกายังคงมีอยู่ โดยอุตสาหกรรมยังต้องซื้อเพิ่มและต้องจับตาความเสี่ยงจากปรากฏการณ์ลานีญา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ย. 68)
