จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เปิดเผยในวันนี้ (24 พ.ย.) ว่า รัฐบาลฮ่องกงสนับสนุนนโยบายทางการทูตของจีนที่มีต่อญี่ปุ่น พร้อมกันนี้ ฮ่องกงจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและตอบสนองอย่างเหมาะสม
ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ของฮ่องกงออกมาแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับข้อพิพาทที่สร้างรอยร้าวระหว่างจีนกับญี่ปุ่นมานานกว่าสองสัปดาห์
ความขัดแย้งดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ กล่าวต่อรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ว่า สถานการณ์ฉุกเฉินในไต้หวันอาจก่อให้เกิด “สถานการณ์คุกคามการอยู่รอด” ของญี่ปุ่น และทำให้ญี่ปุ่นสามารถใช้สิทธิในการป้องกันตนเอง ซึ่งบอกเป็นนัยว่าญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงทางทหารหากจีนโจมตีไต้หวัน โดยถ้อยแถลงดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับจีนอย่างยิ่ง
“ถ้อยแถลงที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงนี้ได้ทำลายบรรยากาศการแลกเปลี่ยนระหว่างจีนกับญี่ปุ่นอย่างหนัก” ลีกล่าวกับผู้สื่อข่าว “เหตุการณ์นี้ทำให้เราเกิดความกังขาในประสิทธิภาพของการแลกเปลี่ยนหลายด้าน”
เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า ฮ่องกงได้ระงับการแลกเปลี่ยนกับสถานกงสุลญี่ปุ่นแล้ว อย่างไรก็ตาม ลีไม่ได้ตอบคำถามโดยตรงว่าฮ่องกงได้ระงับการแลกเปลี่ยนกับญี่ปุ่นจริงหรือไม่ โดยกล่าวเพียงว่า “การจัดการของเราจะต้องสอดคล้องกับศักดิ์ศรีของชาติและผลประโยชน์ของชาวฮ่องกง”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ย. 68)
