แอนโทรปิก (Anthropic) สตาร์ตอัปจากซานฟรานซิสโก ประกาศเปิดตัว “Claude Opus 4.5” โดยผลทดสอบระบุว่าโมเดลปัญญาประดิษฐ์รุ่นล่าสุดนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าระบบคู่แข่งจากกูเกิล (Google) และโอเพนเอไอ (OpenAI) ในด้านการเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์และการจัดการงานซับซ้อนระดับองค์กร
Opus 4.5 ทำคะแนนได้สูงสุดในการทดสอบ SWE-bench Verified ซึ่งเป็นมาตรฐานการวัดความสามารถของ AI ด้านการเขียนโค้ดแบบ Agentic ผลคะแนนที่ออกมานั้นชนะทั้ง “Gemini 3 Pro” ของกูเกิลที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน และ “GPT-5.1” ของโอเพนเอไอ
นอกจากนี้ แอนโทรปิกยังเปิดเผยว่า Opus 4.5 ทำคะแนนข้อสอบเทคนิคภายในของแอนโทรปิกได้สูงกว่ามนุษย์ที่มาสมัครงานตำแหน่งวิศวกรด้านประสิทธิภาพ (Performance Engineer) อีกด้วย
ข่าวการเปิดตัวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และอินวิเดีย (Nvidia) ลงทุนเพิ่มหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้มูลค่าบริษัทของแอนโทรปิกพุ่งไปแตะระดับ 3.5 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ แอนโทรปิกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2564 โดยอดีตผู้บริหารและนักวิจัยจากโอเพนเอไอ และเป็นที่รู้จักจากโมเดลตระกูล Claude ซึ่งแบ่งรุ่นตามขนาดได้แก่ Haiku (เล็ก), Sonnet (กลาง) และ Opus (ใหญ่)
Opus 4.5 ถือเป็นการเปิดตัวครั้งใหญ่ครั้งที่ 3 ของบริษัทในรอบเพียง 2 เดือน สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการพัฒนาที่รวดเร็วในอุตสาหกรรม AI โดยก่อนหน้านี้ แอนโทรปิกเพิ่งปล่อย Claude Sonnet 4.5 ในช่วงปลายเดือนก.ย. ตามด้วย Claude Haiku 4.5 ในเดือนต.ค. ส่วนรุ่นเรือธงก่อนหน้าอย่าง Opus 4.1 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนส.ค.
สก็อตต์ ไวท์ หัวหน้าผลิตภัณฑ์ของ Claude.ai ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเขารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งกับปริมาณการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และผลตอบรับที่ได้ โดยเขามองว่ากลุ่มผู้ใช้งานที่เหมาะสมที่สุดคือนักพัฒนาซอฟต์แวร์และกลุ่มพนักงานที่มีความรู้ (Knowledge Workers) เช่น นักวิเคราะห์การเงิน ที่ปรึกษา และนักบัญชี เพราะโมเดลนี้จะช่วยให้คนกลุ่มนี้สร้างสรรค์งานใหม่ ๆ และขยายขอบเขตวิชาชีพได้กว้างขวางขึ้น
ข้อมูลจากบล็อกของบริษัทระบุว่า ระบบใหม่นี้ทำงานได้ “ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” ในงานกิจวัตรประจำวัน เช่น การแก้ไขสเปรดชีต การจัดการสไลด์นำเสนอ และงานค้นคว้าวิจัยเชิงลึก
ขณะนี้ Opus 4.5 เปิดให้ใช้งานได้แล้ว และจะเป็นโมเดลเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้แพ็กเกจ Pro, Max และ Enterprise
นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศอัปเดตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ควบคู่กัน ได้แก่ “Claude for Chrome” ส่วนขยายที่ช่วยให้ AI ทำงานข้ามแท็บเบราว์เซอร์ ซึ่งขยายสิทธิ์ให้ผู้ใช้ระดับ Max ทุกคนใช้งานได้แล้ว และ “Claude for Excel” สำหรับการจัดการสเปรดชีตที่เปิดให้ใช้งานทั่วไปแล้วสำหรับลูกค้ากลุ่ม Max, Team และ Enterprise รวมถึงการนำฟีเจอร์ Claude Code มาสู่แอปบนเดสก์ท็อปและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 68)
