ชุง ดง-ยัง รัฐมนตรีกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันศุกร์ (28 พ.ย.) ว่า ปีหน้าเกาหลีเหนืออาจแสดงท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อเกาหลีใต้มากขึ้น พร้อมเรียกร้องให้เร่งฟื้นการเจรจากับเกาหลีเหนือ
ชุงเปิดเผยถ้อยแถลงดังกล่าวในช่วงเวลาที่รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพยายามสมานรอยร้าวในความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ ขณะที่เกาหลีเหนือยังคงนิ่งเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้มีการเจรจา หลังจากที่ได้กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง “สองรัฐที่เป็นปฏิปักษ์กัน” ในปี 2566
ชุงกล่าวต่อที่ประชุมกรรมาธิการการต่างประเทศของรัฐสภาว่า “รัฐบาลเชื่อว่าเราต้องขจัดความขัดแย้ง ความเป็นศัตรู และความเกลียดชังให้หมดไป… แล้วเริ่มปีใหม่ด้วยการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนคาบสมุทรเกาหลี โดยอาศัยการฟื้นฟูสันติภาพ การปรองดอง ความร่วมมือ และการพูดคุยหารือกัน”
ชุงชี้ว่า การหวนคืนสู่โต๊ะเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยชี้ขาดในการสร้างบรรยากาศให้เกิดเป้าหมายดังกล่าว โดยกล่าวว่า “ช่วง 5 เดือนก่อนถึงการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเป็นช่วงเวลาชี้ขาด” พร้อมเน้นย้ำว่า เกาหลีใต้ไม่ควรอยู่เฉย
ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่าถ้อยแถลงของชุงเป็นการกระตุ้นให้ทุกฝ่ายเตรียมบรรยากาศ เพื่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้พบกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ระหว่างที่ทรัมป์จะเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่งในเดือนเม.ย. เพื่อประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 68)
