
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (3 ธ.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกในวันอังคาร (2 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 49,540.64 จุด เพิ่มขึ้น 237.19 จุด หรือ +0.48%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,980.89 จุด ลดลง 114.16 จุด หรือ -0.44% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,894.16 จุด ลดลง 3.55 จุด หรือ -0.09%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.3% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้บวก 0.29%
นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค. หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 89.2% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 63% ในเดือนที่แล้ว
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามความคืบหน้าในการสรรหาผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเฟดแทนเจอโรม พาวเวล ซึ่งจะหมดวาระในเดือนพ.ค.ปีหน้า โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะประกาศชื่อผู้ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ในช่วงต้นปีหน้า ขณะที่สื่อรายงานว่า เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาวและเป็นที่ปรึกษาของทรัมป์ เป็นตัวเก็งในการนั่งตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 68)





