Forbes ยก “ซานาเอะ ทาคาอิจิ” ติดอันดับ 3 สตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 68

ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส (Forbes) ติดอันดับ 3 สตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ตามหลัง อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) และคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขณะที่จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี อยู่ในอันดับที่ 4

ในการประกาศการจัดอันดับประจำปีครั้งที่ 22 ฟอร์บสเผยว่า ผู้หญิงที่ติดอันดับ 100 สตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกประจำปี 2568 เป็นตัวแทนของภาวะผู้นำระดับโลกยุคใหม่ ซึ่งนิยามด้วยนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ ผลกระทบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ อิทธิพลที่ขับเคลื่อนวัฒนธรรม และผลงานทางการเงินที่โดดเด่น

ฟอร์บสระบุว่า ทาคาอิจิ ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่นเมื่อเดือนต.ค โดยบริหารเศรษฐกิจญี่ปุ่นมูลค่า 4.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาที่เกิดประเด็นด้านความมั่นคงของเซมิคอนดักเตอร์ การปรับโครงสร้างด้านกลาโหม และแรงกดดันด้านประชากร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่จะกำหนดพลวัตอำนาจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมการผลิตโลก

นอกจากนี้ ฟอร์บส์ยังอธิบายว่า ทาคาอิจิเป็นนักอนุรักษนิยมสายแข็งที่ยกอดีตนายกรัฐมนตรีมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ หญิงแกร่งแห่งเกาะอังกฤษเป็นแบบอย่างทางการเมือง พร้อมเสริมว่า ทาคาอิจิกำลังก้าวสู่บทบาทผู้นำในช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญความท้าทายเดิม ๆ ตั้งแต่ภาวะเงินเฟ้อไปจนถึงค่าจ้างที่ซบเซา

ทั้งนี้ 10 อันดับแรกสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2568 ได้แก่

1. อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป

2. คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป

3. ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

4. จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี

5. ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม ผู้นำเม็กซิโก

6. จูลี สวีต ซีอีโอของเอคเซนเชอร์ (Accenture)

7. แมรี บาร์ร่า ซีอีโอของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors)

8. เจน เฟรเซอร์ ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ป (Citigroup)

9. อบิเกล จอห์นสัน ซีอีโอของฟิเดลลิตี้ อินเวสท์เมนต์ (Fidelity Investments)

10. ลิซ่า ซู ซีอีโอของเอเอ็มดี (AMD)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 68)