การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) คาดการณ์ว่า มูลค่าการค้าโลกจะพุ่งขึ้นทะลุระดับ 35 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ในปี 2568
UNCTAD เผยแพร่รายงานการค้าโลก (Global Trade) ฉบับล่าสุดในวันอังคาร (9 ธ.ค.) โดยระบุว่า แม้การค้าทั่วโลกจะเผชิญความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนที่สูงขึ้น และอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวไม่สอดคล้องกัน ซึ่งทำให้แรงขับเคลื่อนในการส่งออกชะลอตัวลง แต่เชื่อว่าการค้าโลกจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2568
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า UNCTAD ระบุว่า การค้าโลกในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตราว 7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านล้านดอลลาร์จากยอดรวมของปี 2567 พร้อมระบุว่า ปริมาณการค้าที่แข็งแกร่งขึ้นในช่วงปลายปี เป็นปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอุปสงค์โลกยังคงแข็งแรง
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีการเติบโตของการส่งออกแข็งแกร่งที่สุดที่ระดับ 9% โดยการค้าในภูมิภาคแห่งนี้เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งตอกย้ำถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเวทีการค้าโลก
รายงานยังชี้ให้เห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของการย้ายฐานการผลิตห่วงโซ่อุปทานกลับประเทศ (onshoring) และย้ายไปยังกลุ่มประเทศที่เป็นมิตรทางการเมือง (friendshoring) ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวกำลังเข้ามาปรับโครงสร้างเส้นทางการค้าโลกอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับแนวโน้มในอนาคตนั้น UNCTAD คาดว่าการเติบโตทางการค้าจะชะลอตัวในปี 2569 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกซบเซาลง ปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้น ต้นทุนการค้าที่สูงขึ้น ตลอดจนความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 68)
