
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในเดือนพ.ย. ขยายตัวในอัตราช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2567 โดยตลาด EV จีนเริ่มทรงตัว ขณะที่ยอดขายในสหรัฐฯ ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 หลังโครงการสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสิ้นสุดลง
ทั้งนี้ ข้อมูลบ่งชี้ว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกซึ่งใช้เป็นตัวชี้วัดยอดขายนั้น เพิ่มขึ้น 6% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับเกือบ 2 ล้านคัน
ในจีนนั้น ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 3% สู่ระดับมากกว่า 1.3 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นรายปีต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2567 ขณะที่ในอเมริกาเหนือ ยอดจดทะเบียนลดลง 42% เหลือเพียงมากกว่า 100,000 คันเล็กน้อย หลังจากยอดขายลดลงแรงในเดือนต.ค. เมื่อโครงการสิทธิประโยชน์ทางภาษีสิ้นสุดลง และยอดจดทะเบียนตลอดปีจนถึงขณะนี้ลดลง 1%
บริษัทที่ปรึกษา Benchmark Mineral Intelligence (BMI) เปิดเผยในวันนี้ (12 ธ.ค.) ว่า ในยุโรปนั้น ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งรวมทั้งรถไฟฟ้าแบตเตอรี่และปลั๊กอินไฮบริด ยังคงเติบโตแข็งแกร่งจากแรงหนุนของมาตรการจูงใจจากรัฐบาลต่าง ๆ โดยยอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 36% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน สู่ระดับมากกว่า 400,000 คัน
ส่วนยอดจดทะเบียนรถ EV ในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกนั้น เพิ่มขึ้น 35% สู่ระดับเกือบ 160,000 คันตามลำดับ
กลุ่มผู้สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าระบุว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็วจำเป็นต่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดโลกร้อน แต่ผู้ผลิตรถยนต์และรัฐบาลหลายประเทศเริ่มถอยจากคำมั่นด้านสิ่งแวดล้อมบางส่วน เนื่องจากการนำรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้จริงเกิดขึ้นช้ากว่าที่คาด ขณะที่กลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมยานยนต์มองว่า การเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและผลกำไร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 68)





