คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (EU) ตัดสินใจเมื่อวันศุกร์ (12 ธ.ค.) ในการสั่งห้ามการโอนย้ายสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ภายในกลุ่มประเทศสมาชิก EU กลับไปยังรัสเซีย โดยระบุถึงความขัดแย้งที่ยังดำเนินอยู่ในยูเครน
คณะมนตรีระบุในแถลงการณ์ว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อจำกัดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป
มาตรการนี้ห้ามการโอนย้ายสินทรัพย์หรือเงินสำรองของธนาคารกลางรัสเซียทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงการทำธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคล นิติบุคคล หรือองค์กรใดก็ตามที่ดำเนินการแทน หรืออยู่ภายใต้คำสั่งของธนาคารกลางรัสเซีย
อันโตนิโอ คอสตา ประธานสภายุโรปโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า ผู้นำสหภาพยุโรปมีพันธกรณีร่วมกันในการคงการอายัดสินทรัพย์ของรัสเซียไว้ ตามที่ตกลงกันในการประชุมสภายุโรปเมื่อเดือนต.ค. และระบุว่า วันนี้สหภาพยุโรปได้ทำตามคำมั่นสัญญาดังกล่าวแล้ว
แถลงการณ์ระบุว่า มาตรการนี้เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว แต่จะยังคงมีผลบังคับใช้ตราบเท่าที่การมอบทรัพยากรทางการเงินจำนวนมาก หรือทรัพยากรอื่น ๆ ให้แก่รัสเซีย เพื่อใช้ในการทำสงครามในยูเครน ยังคงสร้างหรืออาจสร้างปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิก
มาตรการดังกล่าวจะทำให้สินทรัพย์มูลค่าประมาณ 2.1 แสนล้านยูโร (2.47 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ถูกอายัดไว้ โดยสินทรัพย์ส่วนใหญ่ราว 1.9 แสนล้านยูโร ถูกเก็บรักษาไว้กับยูโรเคลียร์ บริษัทบริการทางการเงินที่ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 68)
