AAV-AOT-BA-THAI เด้งรับตัวเลขนักท่องเที่ยว Long Haul ดีขึ้น,จีน-อินเดียฟื้นชัด

เมื่อเวลา 10.39 น. กลุ่มสายการบิน-AOT ปรับตัวขึ้น

AAV ปรับขึ้น 5.17% มาที่ 1.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 79.73 ล้านบาท

AOT ปรับขึ้น 4.50% มาที่ 52.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 858.88 ล้านบาท

THAI ปรับขึ้น 2.99% มาที่ 8.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 103.09 ล้านบาท

BA ปรับขึ้น 2.80% มาที่ 14.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 58.61 ล้านบาท

 

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนปี 2568 ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ปี 2569 มีโอกาสทำได้ถึง 8 ล้านคน จากสัมมนาเรื่อง “จับชีพจรนักท่องเที่ยวจีน : โอกาสและความท้าทายในปี 2026” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ธ.ค.) โดยนายชนะพันธ์ แก้วกล้าไชยวุฒิ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน

โดยเรามีมุมมองเป็นบวกเพราะนักท่องเที่ยวจีนได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2568 และจะเห็น momentum การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่ชัดเจนในช่วงตรุษจีนใน ไตรมาส 1/69 และคาดว่าปี 2569 จะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึง 8 ล้านคน โดยมีประเด็นสำคัญจากสัมมนาดังนี้

1) คาดภาพรวมของนักท่องเที่ยวจีนปี 2569 จะอยู่ที่ราว 8 ล้านคน (เราคาดที่ 5 ล้านคน) จากงวด 11 เดือนปี 68 อยู่ที่ 4.1 ล้านคน โดยมองว่านักท่องเที่ยวจีนได้ผ่านจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้วในปี 2568 ประกอบกับมีปัจจัยหนุนจากการเสด็จฯเยือนจีนของในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ รวมถึงการกลับมาของกรุ๊ปทัวร์ ตั้งแต่เดือน พ.ย.68 ขนาดใหญ่หลักพันคนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 3-4 กรุ๊ป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์กรขนาดใหญ่ของจีนเริ่มมีความมั่นใจในสถานการณ์ของไทยจากปัจจัยที่ข่าวเชิงลบเริ่มซาลง

2) ช่วงตรุษจีน (17 ก.พ.-3 มี.ค. 26) น่าจะเห็นการเติบโต YoY ได้ดี ส่วนหนึ่งเกิดจากที่ญี่ปุ่นแบนจีนและทัวร์จีนเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดี

3) ประเด็นไทย-กัมพูชา มองว่าผลกระทบค่อนข้างจำกัด เพราะประเทศไทยไม่ได้มีประกาศภาวะฉุกเฉิน และทางการจีนไม่ได้มีการห้ามมาประเทศไทย

4) มองประเทศไทยสามารถแข่งขันกับเวียดนามได้ เพราะไทยมีการบริการที่ดีกว่า และประเทศไทยเน้นการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติและสามารถเที่ยวได้ทั้งปี ซึ่งต่างจากเวียดนามที่ส่วนใหญ่เป็นMan-made และเที่ยวได้เป็นบางช่วง

5) ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนมาแบบ Free Independent Traveler (FIT) มากขึ้น ซึ่งคิดว่าไม่ได้มาแย่งรายได้จากบริษัททัวร์ เพราะบริษัททัวร์ในปัจจุบันมีการปรับตัว โดยการให้นักท่องเที่ยวสามารถจองที่พักเองได้ แต่ทางบริษัททัวร์จะช่วยให้บริการด้านอื่น เช่น ค่าทัวร์, ค่าเดินทาง ซึ่งยังคงได้รายได้เหมือนเดิม เพราะปกติค่าโรงแรมทางบริษัททัวร์ไม่ได้มีการบวกเพิ่มอยู่แล้ว

6) สาเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนมาไทยน้อยลงในปี 2568 มีเพียงเรื่องเดียวคือความไม่ปลอดภัย ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าแทบไม่มีผลกระทบ

บล.ดาโอฯ คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2569 จะอยู่ที่ 34.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น +5% YoY จากปี 2568 ที่ 33 ล้านคน ลดลง -7% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนปี 2569 จะอยู่ที่ 5.0 ล้านคน เพิ่มขึ้น +11% YoY จากปี 2568 ที่ 4.5 ล้านคน ลดลง -33% YoY โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มฟื้นได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 4/68 เป็นต้นไป

คงประมาณการกำไรสุทธิของกลุ่มท่องเที่ยวปี 68-69, คาดไตรมาส 4/68-ไตรมาส 1/69 เข้าสู่ High season ทั้งที่ไทยและมัลดีฟส์เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 68-69 ของกลุ่ม ท่องเที่ยว (CENTEL, ERW, MINT, SHR) อยู่ที่ 1.22 หมื่นล้านบาท/1.32 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +8.5% YoY/+8.4% YoY จากการเติบโตของ RevPAR ประกอบกับมีการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากการคืนหนี้และได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลงขณะที่คาดกำไรไตรมาส 4/68-ไตรมาส 1/69 ของกลุ่มท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น QoQ จาก High season ของไทยและมัลดีฟส์

เราปรับน้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” จากเดิมที่ “เท่ากับตลาด” โดยยังคงเลือก CENTEL, ERW เป็น Top pick เพราะไตรมาส 4/68-ไตรมาส 1/69 เข้าสู่ High season ทั้งที่ไทยและมัลดีฟส์ประกอบกับนักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาฟื้นตัวได้หลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ด้าน Valuation ปรับตัวลดลงมาซื้อขายที่ระดับ PER เพียง 13x จากไตรมาสก่อนที่ 20x แต่ยังต่ำเมื่อเทียบกับก่อนโควิดที่ราว35x

ด้านนายชาญชัย พันทาธนกิจ ผู้อำนวยการสายวิจัย บล.เมย์แบงก์ ระบุว่า จากที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หารือ 6 สายการบิน ได้ร่วมดำเนินการมาตรการเตรียมการรองรับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 (26 ธ.ค.-4 ม.ค.)

ลดราคาค่าบัตรโดยสาร 30% จากเพดานราคา และเพิ่มที่นั่ง รวมทั้ง AOT สนับสนุนเพิ่มเติมด้วยการลดค่าบริการ Landing Charge และ Parking Charge ร้อยละ 30 สำหรับเที่ยวบินพิเศษในช่วงเทศกาล รวมถึงเที่ยวบินที่มีการลดราคาค่าบัตรโดยสาร ทำให้เป็น Sentiment เชิงบวก ที่ทำให้ Load Factor ของสายการบินดีขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 68)