กองทัพสหรัฐฯ ทำลายเรือขนส่งยาเสพติดจำนวน 3 ลำ ในน่านน้ำสากลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) ส่งผลให้ผู้ที่อยู่บนเรือเสียชีวิต 8 ราย โดยปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้คำสั่งของพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
กองบัญชาการภาคใต้ของกองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์โดยอ้างข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ยืนยันว่า เรือทั้ง 3 ลำดำเนินการโดยองค์กรที่ถูกกำหนดให้เป็นองค์กรก่อการร้ายและมีส่วนร่วมในการลักลอบค้ายาเสพติด โดยใช้เส้นทางสัญจรสำหรับการลักลอบขนยาเสพติดในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ทั้งนี้ กองบัญชาการฯ ระบุว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 8 รายเป็นผู้ก่อการร้ายค้ายาเสพติดเพศชาย
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โพสต์ดังกล่าวไม่ได้แสดงหลักฐานประกอบ
นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน จมเรือที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเรือขนยาเสพติดไปแล้วกว่า 25 ลำในทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 95 ราย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวย้ำหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กองทัพสหรัฐฯ จะเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางบกเพื่อกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดในแถบแคริบเบียนเร็ว ๆ นี้ ซึ่งส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับเวเนซุเอลาทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลทรัมป์ได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งใกล้ชายฝั่งเวเนซุเอลา พร้อมประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อหลานชาย 3 คนของภริยาประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา รวมถึงนักธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับมาดูโร และบริษัทขนส่งน้ำมันจากเวเนซุเอลาอีก 6 แห่ง
ทั้งนี้ สหรัฐฯ คงกำลังทหารจำนวนมากในแถบแคริบเบียนเป็นเวลาเกือบ 4 เดือนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่บริเวณนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา โดยอ้างเหตุผลเรื่องการปราบปรามการค้ายาเสพติด ขณะที่เวเนซุเอลาประณามว่าเป็นการกระทำเพื่อหวังผลการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในเวเนซุเอลา
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสส์ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วชี้ว่า ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 48% คัดค้านปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ที่พุ่งเป้าโจมตีเรือขนยาเสพติดในทะเลแคริบเบียนใกล้กับเวเนซุเอลาโดยไม่ได้รับอนุมัติจากศาล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 68)
