เงินเฟ้ออังกฤษเดือนพ.ย.ชะลอแตะ 3.2% ปูทางแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยพรุ่งนี้

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานในวันนี้ (17 ธ.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 3.6% ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.5% รวมถึงต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ระดับ 3.4%

ตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดนี้ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งอาจเป็นการปูทางให้ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.)

ภายหลังการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เงินปอนด์สเตอร์ลิงอ่อนค่าลงทันทีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยปรับตัวลดลงมากถึง 0.6% สู่ระดับ 1.3342 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตลาดตีความว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงจะสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน

ปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันมาจากการชะลอตัวของราคาอาหาร ขณะที่อัตราเงินเฟ้อภาคบริการ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดแรงกดดันด้านราคาภายในประเทศที่ BoE ติดตามอย่างใกล้ชิด ปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 4.4% ซึ่งต่ำกว่าที่ BoE คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.5% ในระยะนี้

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ONS เสริมว่า ราคายาสูบยังมีส่วนช่วยดึงอัตราเงินเฟ้อให้ลดลง โดยราคาได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเดือนนี้หลังจากที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อปีก่อน นอกจากนี้ การลดลงของราคาเสื้อผ้าสตรียังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยฉุดตัวเลขเงินเฟ้อให้ต่ำลง

ข้อมูลชุดนี้ถือเป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจชุดสุดท้ายที่ BoE จะนำมาพิจารณาก่อนการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์และตลาดการเงินต่างคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะกลับมาดำเนินวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

แม้คณะกรรมการนโยบายการเงินจะระงับการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และพ.ย. ที่ผ่านมา แต่หลักฐานเชิงประจักษ์ที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อและเศรษฐกิจกำลังอยู่ในทิศทางขาลงเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นนับตั้งแต่การประชุมครั้งล่าสุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 68)