SUPER รับทรัพย์กว่า 3.66 พันลบ.จากดีลขายโซลาร์ฟาร์ม 15 โครงการให้กลุ่ม “เลวันดา”รอปิดอีก 2

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 บริษัทฯ ได้รับเงินจากการจำหน่ายหุ้นสามัญของ บริษัท เดซี่ โซล่าร์ จำกัด (DAISY) ซึ่งจัดตั้งในประเทศไทยและเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ให้แก่ บริษัท เลวันตา รีนิวเอเบิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (LEVANTA) บริษัทในเครือ Actis Energy Fund 5 กองทุนพลังงานในประเทศอังกฤษ มูลค่ารวม 3,664.22 ล้านบาท

โดยการจำหน่ายหุ้นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ มีแผนนำเงินที่ได้รับไปใช้ชำระคืนหนี้สินจากสถาบันการเงิน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย นำไปขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในอนาคต รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและต่อยอดสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ DAISY ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานของ 7 บริษัท รวม 17 โครงการ กำลังการผลิตรวม 98.00 เมกะวัตต์

การจำหน่ายหุ้นให้แก่ LEVANTA ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการส่วนแรกครอบคลุมบริษัทย่อยจำนวน 6 บริษัท 15 โครงการ กำลังการผลิตรวม 92.60 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ ได้รับเงินค่าจำหน่ายหุ้นเรียบร้อยแล้ว รวมมูลค่า 3,664.22 ล้านบาท

ขณะที่อีก 1 บริษัท จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 5.40 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างดำเนินการตามตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายหุ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2569 และคาดว่าจะได้รับเงินจากการจำหน่ายหุ้นในส่วนดังกล่าวอีกประมาณ 311.53 ล้านบาท

“เม็ดเงินที่ได้รับในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพิ่มความคล่องตัวด้านกระแสเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ลดภาระต้นทุนทางการเงิน และสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ทั้งในด้านการสร้างรายได้ใหม่ รวมถึงการเปิดโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรในอนาคต” นายจอมทรัพย์ กล่าว

บริษัท ฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีกระแสเงินสดในระดับที่เพียงพอ และมีวงเงินกู้ยืมที่สามารถรองรับการขยายการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ
นอกจากนี้ SUPER ยังมีรายได้ประจำจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะโครงการพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างการทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) รวมกำลังการผลิต 129 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการ Soc Trang กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และโครงการ Bac Lieu กำลังการผลิต 99 เมกะวัตต์ คาดว่าจะทยอย COD ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 ถึงไตรมาส 1 ปี 2569 เพื่อรับรู้รายได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าที่ได้รับการประมูลในประเทศไทย รวมกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จำนวน 185 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะทยอย COD ในช่วงปี 2569 – 2572 เพื่อสนับสนุนการเติบโตของรายได้และผลประกอบการในระยะยาว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 68)