ดีล M&A ธุรกิจคริปโทฯ พุ่งเกือบ 300% ปีนี้ อานิสงส์รัฐบาลทรัมป์หนุนความเชื่อมั่น

อุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีทำสถิติด้านการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2568 ด้วยมูลค่าดีลรวมราว 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซี ช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับการทำดีลในภาคธุรกิจดังกล่าว

ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานเมื่อวันพุธ (24 ธ.ค.) ว่า นับจนถึงวันที่ 23 ธ.ค. มีการทำข้อตกลงในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมด 267 ดีล เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2567 ขณะที่มูลค่าดีลรวมพุ่งขึ้นเกือบ 300% จากปีก่อน ซึ่งมีมูลค่าเพียง 2.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแนวโน้มการเติบโตนี้คาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569

ดีลที่มีมูลค่าสูงที่สุดของปีนี้เป็นของ คอยน์เบส (Coinbase) ซึ่งเข้าซื้อ เดอริบิต (Deribit) แพลตฟอร์มซื้อขายออปชันคริปโทเคอร์เรนซี มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนับเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโทฯ

ขณะเดียวกัน ยังมีดีลสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ การที่ คราเคน (Kraken) เข้าซื้อ นินจาเทรดเดอร์ (NinjaTrader) แพลตฟอร์มซื้อขายฟิวเจอร์ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการที่ ริปเปิล (Ripple) เข้าซื้อ ฮิดเดน โรด (Hidden Road) โบรกเกอร์สายคริปโทฯ ด้วยมูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายงานระบุว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินนโยบายผ่อนคลายกฎระเบียบหลายด้าน รวมถึงการยกเลิกคดีฟ้องร้องทางกฎหมายบางส่วน ซึ่งช่วยเปิดทางให้สหรัฐฯ มีท่าทีเป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีมากขึ้น และส่งผลให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมมีความเชื่อมั่นในการเข้าลงทุนในภาคธุรกิจนี้

นอกจากนี้ ปี 2568 ยังถือเป็นปีที่โดดเด่นของการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี โดยไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า มีการระดมทุนจากการทำ IPO ของบริษัทคริปโทฯ ทั่วโลก รวมมูลค่า 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบริษัททั้งหมด 11 แห่ง เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งระดมทุนได้เพียง 310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบริษัทที่เข้าจดทะเบียนเพียง 4 แห่ง

ทั้งนี้ บริษัทที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในการทำ IPO ในปีนี้ ได้แก่ บูลลิช (Bullish) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและบริษัทแม่ของคอยน์เดสก์ (CoinDesk) ซึ่งระดมทุนได้ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ, เซอร์เคิล อินเทอร์เน็ต กรุ๊ป (Circle Internet Group) ผู้ออกสเตเบิลคอยน์ ที่ระดมทุนได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเจมิไน (Gemini) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งระดมทุนได้ 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 68)