
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติเป้าหมายนโยบายการเงินประจำปี 2569 พร้อมเห็นชอบข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ รมว.คลัง ในการกำหนดเป้าหมายนโยบายการเงินระยะปานกลาง โดยกำหนดกรอบอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ไว้ที่ 1-3% ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ในการกำหนดให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 1-3% เป็นเป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับระยะปานกลาง โดยเป้าหมายสำหรับปี 2569 จะดูแลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทยอยกลับเข้าสู่เป้าหมายระยะปานกลาง รวมทั้งดูแลไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืด หรืออัตราเงินเฟ้อที่ติดลบอย่างต่อเนื่องจากราคาสินค้าและบริการที่ลดลงในวงกว้าง โดยเป้าหมายเงินเฟ้อระยะปานกลางที่ 1-3% มีความเหมาะสม เนื่องจากที่ผ่านมา เป้าหมายดังกล่าวทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพด้านราคาได้ดี ผ่านการยึดเหนี่ยวเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะปานกลาง ในขณะที่ช่วง 1-3% มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรองรับความผันผวนจากปัจจัยภายนอก และปัจจัยด้านอุปทาน
นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายการเงินมุ่งดูแลเสถียรภาพด้านราคา ควบคู่ไปกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับศักยภาพและเสถียรภาพระบบการเงิน ภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อแบบยืดหยุ่น (Flexible Inflation Targeting: FIT) โดยการบรรลุเป้าหมายนโยบายการเงินในระยะปานกลาง อาศัยการยึดเหนี่ยวการคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชนและธุรกิจเป็นสำคัญ เพื่อให้เงินเฟ้อไม่ต่ำ หรือสูงเกินไป ต่อเนื่องจนกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือกระทบเสถียรภาพระบบการเงิน
ส่วนในระยะข้างหน้าที่เศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทายหลายด้าน กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะร่วมมือในการดำเนินนโยบายการคลัง และนโยบายการเงิน เพื่อดูแลให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับศักยภาพ และเอื้อให้แนวโน้มเงินเฟ้อกลับเข้าสู่เป้าหมาย โดยการดำเนินนโยบายการเงิน จะมุ่งดูแลภาวะเศรษฐกิจการเงินโดยใช้เครื่องมือแบบผสมผสาน ทั้งในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการใช้มาตรการทางการเงินในการแก้ปัญหานี้ และสนับสนุนสินเชื่อใหม่ เพื่อเสริมการส่งผ่านของนโยบายการเงิน
ในกรณีที่มีเหตุอันสมควรหรือจำเป็น รมว.คลัง และ กนง. อาจตกลงร่วมกัน เพื่อแก้ไขเป้าหมายของนโยบายการเงินได้ก่อนนำเสนอ ครม. เพื่อพิจารณา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 68)





