ประชาชนหลายพันคนต้องตกอยู่ในภาวะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมหนักเป็นประวัติการณ์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) บนชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฝนที่โหมกระหน่ำต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ในวันนี้ (21 พ.ค.) ในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของซิดนีย์ ห่างออกไปกว่า 100 กิโลเมตร ยิ่งซ้ำเติมให้สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่แผ่เป็นวงกว้างอยู่แล้ว ย่ำแย่ลงไปอีก
หน่วยบริการฉุกเฉินแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ (SES) เปิดเผยว่า ตลอด 24 ชั่วโมงจนถึงเช้าวันพุธ ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือ 887 ครั้ง โดยในจำนวนนี้เป็นปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมถึง 118 ครั้ง
แอนดรูว์ เอ็ดมันด์ส โฆษก SES ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC เมื่อเช้าวันพุธว่า ประชาชนราว 16,000 คน หรือประมาณ 7,400 ครัวเรือน ในพื้นที่ที่น้ำท่วมหนักที่สุด คาดว่าอาจต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างน้อยหนึ่งวัน นอกจากนี้ SES ยังได้รับรายงานว่ามีผู้ประสบภัยอีก 52 ชีวิตต้องหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนโต๊ะ ระเบียง หรือแม้กระทั่งหลังคาบ้าน
เอสเซนเชียล เอเนอร์จี (Essential Energy) ผู้ให้บริการไฟฟ้าในท้องถิ่น แจ้งว่ามีบ้านเรือนและสถานประกอบการราว 3,700 แห่งต้องอยู่ในสภาพไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยส่วนใหญ่อยู่ในเมืองทารี วิงแฮม ทิโนนี เบอร์เรลล์ครีก ฮิลล์วิลล์ และละแวกใกล้เคียง
“วันนี้ทีมช่างจะลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อประเมินความเสียหายและเร่งซ่อมแซมในจุดที่สามารถทำได้อย่างปลอดภัย” บริษัทระบุในแถลงการณ์วันนี้
จีฮัด ดิบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงบริการฉุกเฉินแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยกับรายการ Radio National Breakfast เช้านี้ว่า ได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลกลางแล้ว และกองทัพออสเตรเลียเตรียมพร้อมส่งกำลังเข้ามาสนับสนุนภารกิจกู้ภัยในเร็ว ๆ นี้
คอลิน มาโลน ผู้ช่วยผู้บัญชาการ SES แถลงว่า “เราได้แจ้งเตือนให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือย้ายขึ้นไปอยู่ในที่สูงก่อน เนื่องจากสภาพอากาศในขณะนี้ยังเป็นอุปสรรค ทำให้เราไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางเรือ ทางรถยนต์ หรือทางอากาศ”
ขณะเดียวกัน ประกาศเตือนภัยสภาพอากาศรุนแรงจากกรมอุตุนิยมวิทยา (BoM) ระบุว่า บางพื้นที่ในภูมิภาคฮันเตอร์ มิดนอร์ทโคสต์ นอร์เทิร์นเทเบิลแลนด์ส และนอร์เทิร์นริเวอร์ส มีปริมาณน้ำฝนสะสมในรอบ 20 ชั่วโมง สูงเกิน 200 มิลลิเมตร
กรมอุตุฯ ยังคาดการณ์ว่าฝนจะยังคงโหมกระหน่ำต่อเนื่องตลอดวันพุธลากยาวไปจนถึงวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.) ในหลายพื้นที่ของรัฐ และอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงจนอาจ “เป็นอันตรายถึงชีวิต” ได้
ดีน นาร์รามอร์ นักพยากรณ์อากาศอาวุโสของกรมอุตุฯ ให้ข้อมูลกับสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า บางพื้นที่เจอฝนถล่มหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 500 มิลลิเมตร ภายในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง
ระดับน้ำในแม่น้ำแมนนิง บริเวณเมืองทารี บนชายฝั่งมิดนอร์ทโคสต์ ซึ่งอยู่ห่างจากซิดนีย์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 250 กิโลเมตร เมื่อเช้าวันนี้ ได้เอ่อล้นทุบสถิติสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้เมื่อปี 2472 ไปแล้ว
มาโลนกล่าวว่า ปฏิบัติการกู้ภัยส่วนใหญ่ที่ช่วยเหลือผู้คนออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังนั้น เกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งทางการได้ประกาศเตือนให้อพยพไปแล้วตั้งแต่วันอังคาร (20 พ.ค.)
ทั้งนี้ ทางการได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนใน 8 เมืองแล้ว ขณะที่ประชาชนในอีก 3 เมือง รวมถึงเมืองทารี ได้รับแจ้งเตือนว่า “สายเกินไปที่จะอพยพหนีแล้ว”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 68)
Tags: น้ำท่วม, ออสเตรเลีย