นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่น และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มีโอกาสพบกันเป็นเวลา 30 นาที ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 ที่รีสอร์ตคานานาสคิสบนเทือกเขาร็อกกีในแคนาดา โดยถือเป็นการพบกันตัวต่อตัวครั้งที่สองของทั้งคู่ ซึ่งญี่ปุ่นหวังว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนในการผลักดันข้อตกลงการค้าระหว่างสองประเทศ แต่การหารือกันในวันจันทร์ (16 มิ.ย.) ยังไม่สามารถนำไปสู่การลดหรือยกเลิกภาษีนำเข้าที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น
อิชิบะระบุว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นไม่ตรงกันในบางประเด็น แม้ได้เจรจากันจนถึงนาทีสุดท้าย โดยเขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าเป็นประเด็นใดบ้าง
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของอิชิบะได้เปิดการเจรจากับสหรัฐฯ ไปแล้วถึง 6 รอบ นำโดยเรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาภาษีของญี่ปุ่น ซึ่งได้หารือกับ โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ และ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ โดยการเจรจารอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนอิชิบะเดินทางไปแคนาดา
ผู้นำญี่ปุ่นต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นในอัตรา 25% และภาษีตอบโต้สินค้าอื่น ๆ อีก 24% ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการระงับใช้ชั่วคราวถึงวันที่ 9 ก.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางรายเตือนว่าหากภาษีเหล่านี้มีผลบังคับใช้ อาจทำให้จีดีพีของญี่ปุ่นหดตัวถึง 1 จุดเปอร์เซ็นต์
ข้อมูลจากศูนย์พาณิชยกรรมระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (UN International Trade Centre) ระบุว่า มาตรการภาษีของรัฐบาลทรัมป์อาจกระทบการส่งออกรถยนต์ของญี่ปุ่นมูลค่าสูงถึง 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น โตโยต้าและนิสสัน รวมถึงผู้ผลิตรายเล็กที่เปราะบางต่อภาษีอย่างมาสด้า มีสัดส่วนการส่งออกรวมกันประมาณ 20% ของการส่งออกทั้งหมดของญี่ปุ่น
อิชิบะกล่าวว่า ภาคยานยนต์เป็นหนึ่งในผลประโยชน์แห่งชาติที่ญี่ปุ่นจำเป็นต้องปกป้อง และยืนยันว่ารัฐบาลจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อรักษาผลประโยชน์ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน อิชิบะกำลังเผชิญแรงกดดันทางการเมืองภายในประเทศ โดยเขามีกำหนดเดินทางกลับญี่ปุ่นในวันนี้ (17 มิ.ย.) และต้องเร่งผลักดันให้เกิดข้อตกลงกับสหรัฐฯ ให้ได้ก่อนถึงการเลือกตั้งวุฒิสภาในเดือนหน้า ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองของเขา
ทั้งนี้ พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่เขาเป็นผู้นำ ได้สูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไปเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และหากพรรคประสบความพ่ายแพ้อีกในการเลือกตั้งครั้งนี้ รัฐบาลของอิชิบะอาจถึงจุดสิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม อิชิบะและทรัมป์ยังมีโอกาสพบกันอีกในปลายเดือนนี้ โดยทั้งสองมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสุดยอดนาโต (NATO) ที่เมืองเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 24-25 มิ.ย. ซึ่งอาจเป็นเวทีสำคัญในการขยับความสัมพันธ์ทางการค้าอีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มิ.ย. 68)
