ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม ผู้นำเม็กซิโก ประณามการปฏิบัติที่ “ไม่ยุติธรรม” ของสหรัฐฯ ต่อผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารแสดงตัว ระบุการกระทำดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ผู้อพยพได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม ทั้งที่พวกเขาเหล่านั้นมีส่วนสนับสนุนสังคมสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน
ในระหว่างการแถลงข่าวประจำวันมื่อวันพุธ (25 มิ.ย.) ปธน.เชนบามได้วิจารณ์การใช้ความรุนแรงเข้าจับกุมนาร์ซิโซ บาร์รันโก คนสวนชาวเม็กซิกันที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ มานานกว่า 30 ปี และลูก ๆ ของเขารับราชการในกองนาวิกโยธินสหรัฐฯ
วิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง แสดงให้เห็นภาพบาร์รันโกถูกจับกุมและทุบตีโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สวมหน้ากาก ในระหว่างที่เขากำลังตัดแต่งพุ่มไม้อยู่นอกร้านอาหารในเมืองทัสติน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่ที่จับกุมมาจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐฯ
ปธน.เชนบามกล่าวว่า “คนเหล่านี้คือคนที่ออกจากเม็กซิโกเพราะความจำเป็น และสร้างชีวิตของพวกเขาในสหรัฐฯ พวกเขาเป็นทั้งชาวเม็กซิกันและอเมริกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ถือสัญชาติถูกกฎหมายก็ตาม”
ด้านกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ของสหรัฐฯ ตอบโต้ว่า บาร์รันโกเป็นฝ่ายเริ่มการเผชิญหน้าด้วยการใช้เครื่องตัดแต่งวัชพืชโจมตีเจ้าหน้าที่ก่อน โดย DHS ระบุบนเอ็กซ์ (X) ว่า “สื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่ของเรารอจนได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะป้องกันตัวเองอย่างนั้นหรือ?”
ปธน.เชนบามเปิดเผยด้วยว่า สถานกงสุลเม็กซิโกในลอสแอนเจลิสได้ติดต่อไปยังบาร์รันโกเพื่อให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งเธอยังได้เอ่ยชื่นชมนักแสดง ดิเอโก ลูนา ที่ออกมาปกป้องชุมชนชาวเม็กซิกันอย่างเปิดเผยระหว่างปรากฏตัวในรายการ Jimmy Kimmel Live ด้วย
นอกจากนี้ ปธน.เชนบามยังได้วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลสหรัฐฯ ในเมืองต่าง ๆ เช่น ลอสแอนเจลิส ซึ่งก่อให้เกิดการประท้วงและปะทะกันตลอดเดือนมิ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 68)
