ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนี ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ (26 มิ.ย.) โดยสถาบันวิจัยตลาด GfK และสถาบันนูเรมเบิร์กเพื่อการตัดสินใจด้านตลาด (NIM) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ -20.3 จุด สำหรับการคาดการณ์ในเดือนก.ค. เทียบกับระดับ -20.0 จุดที่ปรับค่าเล็กน้อยในเดือนก่อนหน้า ผลสำรวจระบุว่า แม้แนวโน้มรายได้จะดีขึ้น แต่ก็ถูกบั่นทอนด้วยความต้องการออมที่เพิ่มขึ้นของภาคครัวเรือน
ตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ -19.3 จุด
รอล์ฟ เบอร์เคิล นักวิเคราะห์ด้านผู้บริโภคของ NIM กล่าวว่า “หลังจากที่ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันมาสามเดือน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ประสบกับภาวะสะดุดเล็กน้อย”
“สาเหตุหลักมาจากแนวโน้มการออมที่เพิ่มสูงขึ้น” เบอร์เคิลกล่าว พร้อมชี้ว่าตัวเลขด้านการออมนั้นพุ่งขึ้นถึง 3.9 จุด มาอยู่ที่ 13.9 จุด ในเดือนมิ.ย. 2568 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี
เบอร์เคิลตั้งข้อสังเกตอีกว่า “การที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่จะออมเงินสูง ยังเป็นเครื่องสะท้อนถึงความรู้สึกไม่แน่นอนที่พวกเขายังคงมีอยู่” โดยได้ยกตัวอย่างปัจจัยหนึ่งคือนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่คาดเดาได้ยาก
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน ดัชนีความคาดหวังด้านรายได้ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยปรับตัวสูงขึ้น 2.4 จุด มาอยู่ที่ 12.8 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงด้านค่าจ้างที่เป็นผลดี และอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับปานกลาง โดยดัชนีดังกล่าวสะท้อนถึงความคาดหวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสถานะทางการเงินของครัวเรือนในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ขณะเดียวกัน ดัชนีการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจก็ปรับตัวสูงขึ้นถึง 7 จุด มาอยู่ที่ 20.1 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน เนื่องจากผู้บริโภคคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการป้องกันประเทศและโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 5 แสนล้านยูโร (5.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำหรับตัวชี้วัดความเต็มใจในการซื้ออยู่ที่ -6.2 จุดในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ -6.4 จุดในเดือนพ.ค. โดยดัชนีดังกล่าวแสดงถึงความแตกต่างระหว่างคำตอบเชิงบวกและเชิงลบต่อคำถามที่ว่า “คุณคิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการซื้อของชิ้นใหญ่หรือไม่”
อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 30 พ.ค. ถึง 11 มิ.ย. 2568
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 68)
