
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ณ กรุงมอสโก ได้แถลงวันนี้ (27 มิ.ย.) ว่า ลินน์ เทรซี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำรัสเซีย กำลังจะเดินทางออกจากกรุงมอสโกเพื่อสิ้นสุดวาระการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่ได้ดำรงตำแหน่งในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจตกอยู่ในภาวะตึงเครียดที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์
เทรซีเป็นนักการทูตอาชีพที่ได้รับการแต่งตั้งในสมัยรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน การสิ้นสุดวาระของเทรซีเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ กับรัสเซียกำลังหารือถึงความเป็นไปได้ในการปรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ หลังจากที่สายสัมพันธ์ได้เสื่อมถอยลงอย่างหนักนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามเต็มรูปแบบในยูเครนเมื่อปี 2565
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ก็ได้เคยกล่าวไว้ว่า มีโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงด้านการลงทุนครั้งใหญ่ได้ แต่ก็แสดงความไม่พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ความพยายามของเขาในการเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครนยังไม่นำไปสู่การหยุดยิงอย่างมีนัยสำคัญ
สถานทูตฯ ได้อ้างถึงคำกล่าวของเทรซีในแถลงการณ์ว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศชาติในกรุงมอสโกตลอดช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะจากรัสเซียไป ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าเพื่อนร่วมงานของข้าพเจ้าที่สถานทูตฯ จะยังคงทำงานอย่างแข็งขันต่อไปเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ของเรา และเพื่อธำรงรักษาสายสัมพันธ์กับประชาชนชาวรัสเซีย”
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของเทรซีนั้น โดดเด่นด้วยความเชื่อมั่นของท่านที่ว่า การเจรจาอย่างมีความหมายยังคงเป็นสิ่งสำคัญแม้ในยามที่สถานการณ์ยากลำบาก
ก่อนหน้านี้ สถานทูตฯ ได้เคยแจ้งไว้แล้วว่าเทรซีจะอำลาตำแหน่งในเร็ว ๆ นี้ โดยเทรซีเดินทางมาถึงกรุงมอสโกเมื่อเดือนม.ค. 2566 และได้รับการต้อนรับจากกลุ่มผู้ประท้วงที่ตะโกนคำขวัญต่อต้านสหรัฐฯ ขณะที่ท่านเดินทางไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อยื่นอักษรสาส์นตราตั้ง
สำหรับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งสืบต่อยังไม่มีการประกาศชื่ออย่างเป็นทางการ
ระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของเทรซีใกล้เคียงกับเอกอัครราชทูตคนก่อนหน้า คือ จอห์น ซัลลิแวน ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 2 ปี 7 เดือน ตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 ถึงเดือนก.ย. 2565
ทั้งนี้ ผลงานสำคัญของเทรซีคือความพยายามในการผลักดันให้มีการปล่อยตัวพลเมืองอเมริกันที่ถูกคุมขังในรัสเซีย รวมถึงอีวาน เกิร์ชโควิช ผู้สื่อข่าว และพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธิน ซึ่งในที่สุดก็ได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือนส.ค. 2567 อันเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งใหญ่ระหว่างขั้วอำนาจตะวันออกกับตะวันตก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 68)