แคนาดายกเลิกภาษีบริการดิจิทัล เปิดทางเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อีกครั้ง

กระทรวงการคลังแคนาดาแถลงในวันอาทิตย์ (29 มิ.ย.) ว่า แคนาดาได้ตัดสินใจยกเลิกนโยบายภาษีบริการดิจิทัล ซึ่งมุ่งเป้าเก็บจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ แล้ว เพื่อหวังผลักดันให้การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เดินหน้าต่อไปได้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศล้มโต๊ะเจรจาไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า นายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ของแคนาดา และปธน.ทรัมป์ จะกลับมาเริ่มการเจรจาการค้าอีกครั้ง โดยตั้งเป้าว่าจะต้องบรรลุข้อตกลงให้ได้ภายในวันที่ 21 ก.ค. นี้

ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (27 มิ.ย.) ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศยุติการเจรจาการค้ากับแคนาดาอย่างกะทันหัน โดยให้เหตุผลว่า ภาษีบริการดิจิทัลดังกล่าวเปรียบเสมือน “การโจมตีอย่างโจ่งแจ้ง” และขู่ว่าจะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรใหม่กับสินค้าจากแคนาดาภายในสัปดาห์หน้า

สำหรับภาษีบริการดิจิทัลนั้น กำหนดให้เก็บในอัตรา 3% ของรายได้จากบริการดิจิทัลที่บริษัทได้รับจากผู้ใช้งานในแคนาดา เฉพาะส่วนที่เกิน 20 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยจะเรียกเก็บย้อนหลังตั้งแต่ปี 2565

ทั้งนี้ แคนาดาเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ รองจากเม็กซิโก และเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยในปีที่ผ่านมา แคนาดาซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 3.494 แสนล้านดอลลาร์ และส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 4.127 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 68)