SO มั่นใจปี 68 กำไรทำนิวไฮ ปรับเป้ารายได้โต 20% ปักธงรายได้แตะ 5 พันลบ.ใน 5 ปี

นางสาวกัณธิมา แจ้งวันสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามราชธานี [SO] เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ในปี 68 เป็นเติบโต 20% มาที่ 3,000 ล้านบาท จากช่วงต้นปีคาดไว้เติบโต 10-13% และมั่นใจปีนี้กำไรสุทธิทำนิวไฮ จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,500 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 153.40 ล้านบาท หลังจากที่ผลประกอบการในไตรมาส 1/68 ออกมาเติบโตดี ที่มีรายได้ 690 ล้านบาท โต 14.70% (YoY) กำไรสุทธิ 53.61 ล้านบาท โต 74%(YoY)

พร้อมตั้งเป้าภายใน 5 ปี (ปี 68-72) รายได้จะโตแตะ 5,000 ล้านบาท โดยธุรกิจ SO NEXT หรือการบริการเทคโนโลยีจะมีสัดส่วนขึ้นมา 10% จากปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 5% แต่เป็นส่วนที่ทำกำไรได้ดีที่มีอัตรากำไรขั้นต้น(GP) 30% ขณะที่สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่อยู่ที่ SO People ให้บริการบุคคลากรที่ 70-75% แต่มี GP เพียง 14-15% รองลงมาเป็น SO Green บริการจัดการและดูแลสวน มีสัดส่วน 25% และ SO Wheel บริการรถเช่า สัดส่วน 20%

ณ สิ้นมี.ค.68 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่ 2,280 ล้านบาท สัญญาส่วนใหญ่ 1-2 ปี ซึ่งแต่ละปีจะรับรู้รายได้ราว 80-90%ของ Backlog และคาดว่าสิ้นปี 68 จะมี Backlog 2,400 ล้านบาท โดยบริษัทประเมินว่า Backlog จะเติบโตปีละอย่างน้อย 10% ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าเดิมจะต่อสัญญากับบริษัทเป็นส่วนใหญ่

ขณะเดียวกันบริษัทปรับปรุงวิธีการทำงานให้ทันสมัยตลอดเวลา อีกทั้งบริษัทมีการปรับค่าบริการทุกปี รวมกับค่าแรงขั้นต่ำ ค่าปรับทักษะ หรือเบี้ยเลี้ยง แม้ที่ผ่านมาจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต่อเนื่อง แต่บริษัทจะคิดค่าบริการเพิ่มจากลูกค้า ซึ่งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน ที่จะมีผลก.ค.นี้ อาจจะมีผลกระทบบ้างที่บริษัทต้องจ่ายออกมาก่อน แต่ก็ได้พูดคุยกับลูกค้าแล้ว เชื่อว่าในระยะสั้นจะกระทบกระแสเงินสด (cashflow) บ้าง

ส่วนในครึ่งปีหลัง 2568 บริษัทจะใช้กลยุทธ์ที่ไม่ได้จำกัดแค่การส่งมอบบุคลากรหรือระบบสนับสนุน แต่คือการเข้าไปเป็น “ฟันเฟืองหลัก” ที่ขับเคลื่อนองค์กรไทยให้สามารถบริหารความไม่แน่นอน สร้างความยืดหยุ่น และแข่งขันได้ในทุกจังหวะของเศรษฐกิจ ภายใต้แนวคิด “Trusted Partner & Delivering Excellence”

“ครึ่งปีแรกของปี 2568 เราได้วางรากฐาน และขยายขีดความสามารถของธุรกิจในหลายด้าน ครึ่งปีหลังเราจะเร่งเครื่องเดินหน้าขยายบริการอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการส่งมอบโซลูชันที่ครบวงจร และยกระดับบริการด้วยเทคโนโลยี เพื่อรองรับตลาดแรงงาน และการจัดการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” นางสาวกัณธิมากล่าว

บทบาทของ SO ซึ่งหนึ่งในหัวใจสำคัญของแผนครึ่งปีหลัง คือ การขยายบริการ Outsourcing แบบครบวงจรให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง อาทิ การเงิน ประกัน พลังงาน ธุรกิจบริการ และภาครัฐ มีความต้องการระบบสนับสนุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างเป็นระบบ โดย SO ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าใหม่ในกลุ่มดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 20% ภายในสิ้นปี โดยบริการของ SO ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาและบริหารจัดการบุคลากร การจัดการยานพาหนะและอุปกรณ์สำนักงาน ไปจนถึงการดูแลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานที่ลูกค้ากำหนด โดยบริษัทมุ่งยกระดับคุณภาพการให้บริการเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด และสร้างการรับรู้แบรนด์ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ขององค์กรไทย

“เป้าหมายของเราคือไม่เพียงแค่การเติบโตทางรายได้ แต่รวมถึงการยกระดับมาตรฐานของธุรกิจ Outsourcing ให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไทยให้แข่งขันได้ในระดับภูมิภาค เราเชื่อว่าบทบาทของ SO จะไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการ แต่คือพาร์ตเนอร์เชิงกลยุทธ์ในระยะยาวของลูกค้าทุกกลุ่ม” นางสาวกัณธิมา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 68)