ทำเนียบขาวและเพนตากอนยืนยันในวันอังคาร (1 ก.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ระงับการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนบางส่วน หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบคลังอาวุธของสหรัฐฯ เอง
แอนนา เคลลี โฆกทำเนียบขาว แถลงว่า “การตัดสินใจครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายผลประโยชน์ของอเมริกาต้องมาก่อน หลังจากที่ได้มีการทบทวนเรื่องการสนับสุนและการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก”
สื่อหลายสำนักของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลว่า อาวุธในคลังของสหรัฐฯ ลดลงมากเกินไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้ว พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ตรวจสอบคลังอาวุธของสหรัฐฯ หลังจากสหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือยูเครนมานานสามปี รวมถึงโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน และโจมตีอิหร่านเมื่อเร็ว ๆ นี้
สื่อหลายสำนักรายงานว่า ผลการตรวจสอบเผยให้เห็นว่าอาวุธบางประเภทในคลังเหลือน้อยเกินไป
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังส่งสัญญาณว่า อาจลดการให้ความช่วยเหลือยูเครนลงอีก โดยเมื่อเดือนที่แล้ว เฮกเซธก็ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศเพื่อประสานความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ไม่เข้าร่วมการประชุม
ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพี (AP) รายงานว่า สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางทหารและจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ยูเครนคิดเป็นมูลค่ากว่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนอุบัติขึ้นเมื่อเดือนก.พ. 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 68)
