
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ออกเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ (6 ก.ค.) โดยระบุว่าการเดินทางครั้งนี้เป็น “โอกาสอันยิ่งใหญ่” ในการขยายวงสันติภาพในตะวันออกกลาง
ก่อนขึ้นเครื่องบิน นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวว่า มีแนวโน้มใหม่ ๆ ที่อิสราเอลจะสามารถบรรลุข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับชาติอาหรับได้ “ไกลเกินกว่าที่เราเคยจินตนาการไว้”
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การยกระดับความพยายามในการสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติถือเป็นเป้าหมายหลักของนโยบายต่างประเทศของนายกฯ เนทันยาฮู โดยภายใต้ข้อตกลงอับราฮัมปี 2563 อิสราเอลได้ลงนามสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และโมร็อกโก เพิ่มเติมจากข้อตกลงสันติภาพที่มีอยู่แล้วกับอียิปต์และจอร์แดน
“เราได้เปลี่ยนโฉมหน้าของตะวันออกกลางไปแล้วจนจำแทบไม่ได้” นายกฯ เนทันยาฮูกล่าว โดยอ้างถึงปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา การสู้รบข้ามพรมแดนกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน รวมถึงความขัดแย้งกับอิหร่าน เยเมน และซีเรีย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อิสราเอลรายหนึ่งเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ อิสราเอลได้ส่งคณะผู้แทนไปยังกาตาร์ เพื่อกลับมาเจรจาทางอ้อมกับกลุ่มฮามาสเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกัน
นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวว่า คณะผู้แทนได้รับ “คำสั่งที่ชัดเจน” ให้ผลักดันข้อตกลงหยุดยิงภายใต้เงื่อนไขที่อิสราเอลยอมรับแล้ว พร้อมเสริมว่า การพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงนี้ “ช่วยส่งเสริมผลลัพธ์ที่เราทุกคนหวังไว้ได้อย่างแน่นอน”
การเยือนกรุงวอชิงตันของนายกฯ เนทันยาฮูซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ (7 ก.ค.) ถือเป็นการเยือนครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์กลับเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค.
ทั้งนี้ อิสราเอลกำลังเผชิญแรงกดดันภายในประเทศให้มีการหยุดยิงระยะยาวเพื่อยุติสงครามในกาซา และนำตัวประกันราว 50 คนกลับคืนมา ซึ่งเชื่อว่าอย่างน้อย 20 คนยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมรัฐบาลฝ่ายขวาจัดของนายกฯ เนทันยาฮูกลับผลักดันให้เขาเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป และเข้าควบคุมพื้นที่บางส่วนของดินแดนปาเลสไตน์อย่างถาวร
เมื่อวันศุกร์ (4 ก.ค.) กลุ่มฮามาสได้ตอบรับ “ในเชิงบวก” ต่อข้อเสนอพักรบ 60 วันที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุน ขณะที่ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า อิสราเอลได้ตกลง “ในเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อบรรลุข้อตกลง” แล้ว
อนึ่ง หน่วยงานสาธารณสุขของกาซาเปิดเผยตัวเลขล่าสุดในวันอาทิตย์ว่า นับตั้งแต่อิสราเอลกลับมาเริ่มปฏิบัติการทางทหารอีกครั้งในวันที่ 18 มี.ค. มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6,860 ราย และบาดเจ็บราว 24,220 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในกาซานับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อเดือนต.ค. 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 57,418 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 136,261 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 68)