เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เปิดเผยระหว่างการเดินทางเยือนทำเนียบขาวว่า เขาได้เสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้เข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ขณะที่สหรัฐฯ กำลังผลักดันให้เกิดการหยุดยิงในฉนวนกาซา
เนทันยาฮูกล่าวกับผู้สื่อข่าวในช่วงเริ่มต้นงานเลี้ยงอาหารค่ำร่วมกับทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงเมื่อวันจันทร์ (7 ก.ค.) ว่า “เขากำลังสร้างสันติภาพในขณะที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่ … ในประเทศแล้วประเทศเล่า และในภูมิภาคแล้วภูมิภาคเล่า ดังนั้น ผมจึงอยากจะนำเสนอจดหมายที่ผมส่งไปยังคณะกรรมการรางวัลโนเบลให้ท่านประธานาธิบดีได้เห็น มันคือการเสนอชื่อท่านให้รับรางวัลสันติภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านสมควรได้รับอย่างยิ่ง”
ด้านปธน.ทรัมป์กล่าวตอบว่า “การที่คำพูดนี้มาจากคุณโดยเฉพาะ ถือว่ามีความหมายอย่างยิ่ง”
ทั้งนี้ เนทันยาฮูไม่ใช่ผู้นำต่างชาติคนแรกที่เสนอชื่อทรัมป์ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ปากีสถานก็ได้ประกาศว่าจะเสนอชื่อทรัมป์เพื่อรับรางวัลดังกล่าวเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ทรัมป์เองเคยแสดงความไม่พอใจต่อข้อเท็จจริงที่ว่า บารัค โอบามา ซึ่งเป็นปธน.สหรัฐฯ คนก่อนหน้าเขา ได้รับรางวัลโนเบลในปี 2552 ก่อนที่โอบามาจะอนุมัติให้ส่งทหารสหรัฐฯ เข้าไปเสริมกำลังในอัฟกานิสถาน
การเยือนทำเนียบขาวของเนทันยาฮูครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค. มีขึ้นหลังจากสงคราม 12 วันระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน โดยสหรัฐฯ ได้เข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลและทำการโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายครั้งต่อโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ทรัมป์อ้างว่า เป้าหมายต่าง ๆ ถูก “ทำลายสิ้นซาก” แต่การประเมินความเสียหายยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคลังยูเรเนียมเสริมสมรรถนะของอิหร่านอยู่ที่ใด ขณะนี้ทรัมป์กำลังกดดันให้อิหร่านกลับสู่โต๊ะเจรจา
ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐฯ กับอิหร่านมีกำหนดจะพบกันในเร็ว ๆ นี้ และย้ำว่าเขาเปิดกว้างที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน โดยสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของทรัมป์ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะพบกันภายในสัปดาห์หน้า
“ผมอยากจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้นในเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้โอกาสพวกเขาในการฟื้นฟู เพราะผมอยากเห็นอิหร่านสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ในทางสันติ และไม่เที่ยวตะโกนว่า ‘อเมริกาจงพินาศ อิสราเอลจงพินาศ’ เหมือนที่พวกเขาเคยทำ” ทรัมป์กล่าว
นอกจากนี้ การเยือนของเนทันยาฮูยังเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลทรัมป์กำลังผลักดันให้ยุติสงครามในกาซา โดยทรัมป์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าข้อตกลงหยุดยิงอาจ “ใกล้” ความเป็นจริงแล้ว
เนทันยาฮูได้ยอมรับข้อเสนอที่ทรัมป์เป็นผู้ยื่นให้ ซึ่งจะมีการหยุดยิงในกาซาเป็นเวลา 60 วัน แลกกับการปล่อยตัวประกันบางส่วน โดยกลุ่มฮามาสระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าได้ตอบสนองต่อข้อตกลงดังกล่าวในเชิงบวก และพร้อมที่จะเข้าสู่การเจรจาทันที
ขณะนี้ แรงกดดันจากนานาชาติกำลังเพิ่มขึ้นต่ออิสราเอลให้ยุติสงครามในกาซา หลังจากมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วกว่า 56,000 คน ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขที่บริหารโดยกลุ่มฮามาส ขณะที่หน่วยงานให้ความช่วยเหลือต่างเตือนว่า ชาวกาซา 2 ล้านคนกำลังเสี่ยงต่อภาวะอดอยาก
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาส ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นองค์กรก่อการร้ายโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ยังคงควบคุมตัวประกันไว้อีกประมาณ 50 คน ซึ่งอิสราเอลเชื่อว่าในจำนวนนี้ยังมีชีวิตอยู่ 20 คน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 68)
