
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) ว่า พบจดหมายที่มีเนื้อหาเชิงลามกอนาจาร ซึ่งมีลายเซ็นของโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ในอัลบั้มอวยพรวันเกิดครบรอบ 50 ปีของเจฟฟรีย์ เอปสตีน เมื่อปี 2546 โดยจดหมายดังกล่าวถูกส่งตามคำขอของกิเลน แม็กซ์เวลล์ เพื่อนสนิทของเอปสตีน เป็นเวลา 16 ปีก่อนที่เอปสตีนจะถูกตั้งข้อหาค้ามนุษย์ทางเพศกับเด็ก
ผู้สื่อข่าวของ WSJ ระบุว่า “จดหมายดังกล่าวมีข้อความที่พิมพ์อยู่หลายบรรทัดภายในกรอบภาพร่างของผู้หญิงเปลือย ซึ่งดูเหมือนจะวาดด้วยมือโดยใช้ปากกาเมจิกหัวใหญ่” และเสริมว่า “มีเส้นโค้งเล็ก ๆ สองเส้นแทนส่วนหน้าอก ขณะที่ลายเซ็นชื่อ ‘โดนัลด์’ ที่เขียนแบบหวัด ๆ ของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ถูกเซ็นไว้บริเวณใต้เอว เพื่อให้ดูเหมือนขนในที่ลับ”
ข้อความในจดหมายถูกเขียนในลักษณะบทสนทนาสมมติระหว่างทรัมป์กับเอปสตีน และปิดท้ายว่า “สุขสันต์วันเกิด — และขอให้ทุกวันเป็นความลับอันแสนวิเศษอีกวัน”
มีรายงานว่า อัลบั้มปกหนังที่บรรจุจดหมายฉบับนี้เคยถูกตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมเมื่อหลายปีก่อน ระหว่างการสืบสวนคดีของเอปสตีนและแม็กซ์เวลล์ ในอัลบั้มยังมีจดหมายจากอลัน เดอร์เชอวิตซ์ ทนายความชื่อดัง และเลส เว็กซ์เนอร์ มหาเศรษฐีอเมริกันอีกด้วย
ในการให้สัมภาษณ์กับ WSJ ทรัมป์ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้เขียนจดหมายดังกล่าว “นี่ไม่ใช่ผม มันเป็นของปลอม นี่เป็นเรื่องที่วอลล์สตรีท เจอร์นัล กุขึ้นมา” เขากล่าว “ผมไม่เคยวาดรูปผู้หญิงมาก่อนในชีวิต ไม่ใช่สำนวนของผม ไม่ใช่คำพูดของผม” พร้อมขู่ว่าหากตีพิมพ์เรื่องนี้ “ผมจะฟ้องวอลล์สตรีท เจอร์นัล”
หลังจากข่าวถูกตีพิมพ์ ทรัมป์ได้ย้ำคำขู่อีกครั้งบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth Social) โดยระบุว่าจะฟ้องร้อง WSJ, นิวส์คอร์ป (NewsCorp) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และรูเพิร์ต เมอร์ด็อก โดยอ้างว่าเมอร์ด็อก “ได้รับการเตือนโดยตรงแล้ว” แต่ “ไม่มีอำนาจ” ที่จะหยุดยั้งเรื่องนี้ได้
รายงานชิ้นนี้มีขึ้นในขณะที่ปธน.ทรัมป์กำลังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจของแพม บอนดี อัยการสูงสุด ที่จะไม่เปิดเผยหลักฐานเพิ่มเติมจากการสืบสวนคดีเอปสตีน หลังจากนั้นไม่นาน ทรัมป์ได้ประกาศว่า เขาได้ขอให้บอนดีดำเนินการหา “คำให้การทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจากคณะลูกขุนใหญ่ (Grand Jury)” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายชี้ว่าเป็นคำขอที่ไม่น่าจะสำเร็จได้เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยการรักษาความลับที่เข้มงวด
บทความของ WSJ ถูกตีพิมพ์หนึ่งวัน หลังจากที่กระทรวงยุติธรรมไล่ออก มอรีน โคมีย์ อัยการในทีมสืบสวนคดีเอปสตีนและแม็กซ์เวลล์ ซึ่งเธอเป็นบุตรสาวของเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI และคู่ปรับคนสำคัญของทรัมป์
ทั้งนี้ ทรัมป์เคยกล่าวว่าเขาได้ยุติความเป็นเพื่อนกับเอปสตีนก่อนที่นักการเงินรายนี้จะรับสารภาพในคดีอาชญากรรมทางเพศระดับรัฐในปี 2551 โดยเอปสตีนเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในเรือนจำแมนฮัตตันเมื่อปี 2562 หลังถูกจับกุมในข้อหาค้ามนุษย์ทางเพศกับเด็ก ส่วนแม็กซ์เวลล์ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากบทบาทของเธอในคดีดังกล่าวและได้รับโทษจำคุก 20 ปีในปี 2565
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 68)