บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค [PF] ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2569-2571) สุดเข้มข้น เพื่อฝ่าพายุเศรษฐกิจและพลิกฟื้นธุรกิจให้แข็งแกร่งอีกครั้ง โดยมุ่งเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ ลดภาระหนี้, สร้างยอดขายเพิ่มรายได้ และปรับโครงสร้างธุรกิจ พร้อมมั่นใจในจุดแข็งด้านที่ดินศักยภาพสูง, พันธมิตรต่างชาติ และประสบการณ์ 40 ปีในวงการ
นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PF เผยว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กำลังซื้อผู้บริโภคอ่อนแรง และภาคอสังหาฯ เผชิญแรงกดดันจากการปฏิเสธสินเชื่อที่สูง บริษัทตระหนักถึงความท้าทายนี้ดี จึงได้วางแผนกลยุทธ์ 3 ปี เพื่อรับมือและฟื้นตัวอย่างมั่นคง
เป้าหมายสำคัญอันดับแรกคือ ลดภาระหนี้ลง 50% ภายในปี 2570 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน โดย PF มีแผนขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non-Core Assets) ต่อเนื่อง 3 ปี มูลค่ารวมกว่า 4,300 ล้านบาท (ปี 2569: 300 ล้านบาท, ปี 2570: 2,500 ล้านบาท, ปี 2571: 1,500 ล้านบาท) เพื่อเสริมสภาพคล่องและสนับสนุนการลดหนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ให้ยืดหยุ่นขึ้น และเตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ เพื่อขออนุมัติขยายระยะเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้ 15 ชุด ที่จะครบกำหนดระหว่าง ส.ค. 2568 – ม.ค. 2570 ออกไป 2 ปี พร้อมปรับเพิ่มดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี เพื่อให้บริหารกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืนยันถึงความสำคัญของผู้ถือหุ้นกู้ทุกราย
ด้านแผนธุรกิจ PF ตั้งเป้า สร้างยอดขายให้กลับมาแตะ 10,000 ล้านบาทภายในปี 2571 โดยจะมุ่งเน้นสินค้ากลุ่มบ้านระดับราคาปานกลาง ซึ่งยังคงมีความต้องการในตลาดสูง ขณะเดียวกันจะทยอยลดสัดส่วนคอนโดมิเนียม
ปัจจุบัน PF มีสินค้าพร้อมขายรวมมูลค่า 6,000 ล้านบาท (แนวราบ 2,500 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม 3,500 ล้านบาท) และจะเร่งระบายสต็อกในโครงการที่สามารถรับรู้รายได้ทันที รวมถึงมีสินค้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 2,220 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังคงมีจุดแข็งจากที่ดินในทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างเขาใหญ่ หัวหิน และเชียงใหม่
PF ยังเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจและองค์กร เพื่อลดค่าใช้จ่ายลง 20% ภายในปี 2569 โดยจะปรับโครงสร้างการดำเนินงานและระบบบริหารจัดการให้กระชับ คล่องตัว เพื่อยกระดับความสามารถในการทำกำไร เพิ่มประสิทธิภาพ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน
นายศานิต ย้ำว่า PF ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรระดับโลกอย่าง Sumitomo Forestry และ Sekisui Chemical จากญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพที่นักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่น ประกอบกับประสบการณ์ 40 ปีในธุรกิจอสังหาฯ และความสามารถในการบริหารจัดการภายใต้สภาวะท้าทาย ทำให้บริษัทผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมาแล้วหลายครั้ง และแผน 3 ปีนี้ ไม่เพียงรับมือความท้าทายปัจจุบัน แต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 68)
