
TU ร่วง 7.63% ลดลง 0.90 บาท มาที่ 10.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 253.52 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.06 น. จากราคาเปิด 11.80 บาท ราคาสูงสุด 12.00 บาท และราคาต่ำสุด 10.90 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป [TU] แจ้งว่า Mitsubishi Corporation ขอซื้อหุ้นเพิ่ม 13.81% เป็น 20% ของหุ้นทั้งหมด ที่ราคา 12.5 บาท โดยตั้งโต๊ะรับซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิมในตลาด(General Offer) ยังไม่กำหนดระยะเวลาการรับซื้อหุ้น โดยจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อต้องบรรลุเงื่อนไขต่างๆดังนี้
1. TU อยู่ระหว่างประชุมคณกรรมการบริษัทวันนี้
2. ก่อนจะรับซื้อ TU ต้องมี Foreign holding เหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 13.81% (ไม่รวมหุ้นซื้อคืน)
3. ต้องได้รับอนุมัติ Merger Control และ Foreign Direct Investment จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทั้ง TU และ Mitsubishi Corp ก่อน
4. ต้องเข้าลงนามสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างทั้ง 2 บริษัท ภายใต้เงื่อนไขที่ TU ยอมรับได้
5. TU จะไม่ทำการใดๆที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของผู้ถือหุ้น (เช่น ออกหุ้นเพิ่มทุน, ซื้อหุ้นคืน, จ่ายปันผล หรือทำธุรกรรมใดๆที่สำคัญ) ก่อนที่จะมีการรับซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการ หมายถึง จะไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล H1/68
ถ้าไม่บรรลุตามเงื่อนไขข้างต้น การรับซื้ออาจไม่กิดขึ้น หรือมีการเลื่อนการรับซื้ออกไปจนกว่าเงื่อนไขจะสำเร็จ
สาเหตุขอเข้าซื้อ TU ระบุว่า Mitsubishi Corp แจ้งว่า เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของ TU และทาง Mitsu ต้องการขยายความร่วมมือทางธุรกิจกับ TU ให้แน่นแฟ้นขึ้น โดยความสัมพันธ์ TU กับ Mitsu ทั้ง 2 บริษัทเป็นพันธมิตรกันมานาน ทั้งในแง่ของคู่ค้า และการทำ R&D ด้านอาหารทะเล โดย Mitsu เข้าถือหุ้นตั้งแต่แรก ตั้งแต่ปี 2538
เรามีมุมมองระมัดระวังต่อดีลนี้ เพราะหากรับซื้อคืนสำเร็จ Mitsu จะขยับขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ในสัดส่วน 20% (เต็ม Max จะไม่เข้าถือหุ้นมากกว่านี้ เพราะคิด cap ด้าน Foreign holding) แต่หากรวม TU และ กลุ่มครอบครัวของผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งรวมกันเบื้องต้นอยู่ที่ราว 30-33% ของหุ้นทั้งหมด จะยังเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เรายังต้องติดตามว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะมีการขายหุ้นออกมาให้ Mitsu ด้วยหรือไม่ เพราะจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไป และอาจกระทบต่ออำนาจในการตัดสินใจในอนาคต
ระหว่างนี้ ราคาหุ้น TU น่าจะแกว่งอยู่ในกรอบ ไม่เกินราคารับซื้อที่ 12.5 บาท แนะนำชะลอการลงทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 68)