อันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้ทางการอิสราเอลล้มเลิกแผนการสร้างนิคมในพื้นที่ E1 ของเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลเข้าไปยึดครองโดยทันที
“จุดยืนของเราชัดเจน นิคมของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงเยรูซาเลมตะวันออก และระบอบการปกครองที่เกี่ยวข้อง ถูกจัดตั้งขึ้นและดำรงอยู่โดยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของเลขาธิการสหประชาชาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดี (14 ส.ค.)
“การสร้างนิคมจะยิ่งทำให้การยึดครองฝังรากลึกมากขึ้น เพิ่มความตึงเครียด และค่อย ๆ บ่อนทำลายความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาด้วยแนวทางสองรัฐ”
ขณะเดียวกัน คายา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) ก็เรียกร้องให้อิสราเอลล้มเลิกแผนการดังกล่าว โดยเตือนว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และจะสร้างความเสียหายต่อการแก้ปัญหาด้วยแนวทางสองรัฐอย่างไม่สามารถแก้ไขได้
คัลลาสกล่าวว่า นโยบายการขยายการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงการรื้อถอน การบังคับย้ายถิ่นฐาน การขับไล่ และการยึดบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ จะต้องยุติลง โดยเสริมว่ามาตรการเหล่านี้ รวมถึงความรุนแรงของผู้ตั้งถิ่นฐานและปฏิบัติการทางทหาร เป็นการเติมเชื้อไฟให้กับความตึงเครียดและบั่นทอนความเป็นไปได้ในการสร้างสันติภาพ
ด้านสหราชอาณาจักร (UK) ก็เรียกร้องให้อิสราเอลล้มเลิกแผนการเช่นกัน โดยเดวิด แลมมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาเตือนเช่นกันว่า การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และบั่นทอนโอกาสในการแก้ปัญหาด้วยแนวทางสองรัฐ
“สหราชอาณาจักรคัดค้านอย่างรุนแรงต่อแผนการของรัฐบาลอิสราเอลในการสร้างนิคมในพื้นที่ E1 ซึ่งจะแบ่งรัฐปาเลสไตน์ในอนาคตออกเป็นสองส่วน” แลมมีกล่าว “ต้องหยุดแผนดังกล่าวทันที”
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอิสราเอล ได้เปิดเผยแผนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยประมาณ 3,500 ยูนิตในพื้นที่ E1 ของเขตเวสต์แบงก์ พร้อมกับประกาศว่าโครงการนี้จะ “ขุดหลุมฝัง” แนวคิดเรื่องความเป็นรัฐของปาเลสไตน์
ทั้งนี้ การก่อสร้างนิคมในพื้นที่ E1 จะตัดขาดเยรูซาเลมตะวันออกจากเขตเวสต์แบงก์ตอนเหนือ แผนการก่อสร้างนิคมในพื้นที่ดังกล่าวจึงถูกระงับมาหลายปีแล้ว เนื่องจากถูกนานาชาติคัดค้านอย่างหนัก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 68)
