
บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น [SAWAD] รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 แข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,798 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,317 ล้านบาท ขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า 15.7% ในขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 68 บริษัทมีรายได้รวม 9,573 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,455 ล้านบาท สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารต้นทุนและพอร์ตสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังคงเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวจากปัจจัยต่างๆ
สำหรับไตรมาส 2/68 บริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนที่เป็นฐานรายได้หลัก โดยมีรายได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 4,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 2.1% สะท้อนประสิทธิภาพของการบริหารพอร์ตสินเชื่อที่เน้นผลิตภัณฑ์ที่มี yield สูงขึ้น รวมถึงการสิ้นสุดโครงการลดดอกเบี้ยชั่วคราวที่ช่วยเหลือลูกหนี้ในไตรมาสก่อนหน้า
ขณะที่รายได้จากค่านายหน้าประกันภัยเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมีรายได้อยู่ที่ 342 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 10.3% โดยรายได้ค่านายหน้าประกันภัยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการเพิ่มพันธมิตรบริษัทประกันภัยให้ครอบคลุม และเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ สะท้อนความแข็งแรงของธุรกิจนายหน้าประกันภัยซึ่งเป็นธุรกิจที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ด้านต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 715 ล้านบาท ลดลง 1.8% จากไตรมาสก่อน จากการลดภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยและอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ปรับลดลงจากการจัดอันดับเรทติ้ง A- จาก FITCH
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร SAWAD กล่าวว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 68 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อในระดับ 5-10% พร้อมเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจอย่างรอบด้านด้วยการยกระดับบริการดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันศรีสวัสดิ์จากพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ และพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินที่ตอบโจทย์อย่างครอบคลุม ควบคู่ไปกับนโยบายการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) อันเป็นกลยุทธ์สำคัญที่บริษัทยึดถือมาตลอด เพื่อให้บริษัทเป็นที่พึ่งทางการเงินที่เข้าถึงง่าย โปร่งใส ตลอดจนเสริมบทบาทความเป็นองค์กรภาคเอกชนที่พร้อมยืนเคียงข้างคนไทย
สำหรับแนวโน้มและกลยุทธ์ธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 68 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพพอร์ตสินเชื่อและปรับสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมกับภาวะการแข่งขันและความเสี่ยงของแต่ละประเภทสินเชื่อ มุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการบริการด้านสินเชื่อ รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มประกันออนไลน์อย่างครบวงจรที่จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเติบโตของธุรกิจให้ก้าวกระโดด
ขณะเดียวกันด้าน Digital Transformation โครงการ e-KYC และ Mobile Lending Platform มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน และอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปี 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการสมัครสินเชื่อ ลดเวลาการอนุมัติ และลดต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ในระยะยาว เพื่อสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนในอนาคต
ล่าสุด SAWAD ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ 4 รุ่น มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท โดยมีกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากนักลงทุนสถาบันและสหกรณ์ ส่งผลให้ยอดจองซื้อเกินยอดจัดสรรกว่า 2 เท่า สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตและสถานะทางการเงินที่มั่นคงของบริษัทฯ อย่างชัดเจน
“การตอบรับอย่างล้นหลามของนักลงทุนต่อหุ้นกู้ SAWAD เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเรายังคงเป็นตัวเลือกในการลงทุนที่มั่นคงในภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ทั้งนี้ บริษัทฯมีแผนจะนำเงินไปชำระหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ขยายพอร์ตสินเชื่อ และเป็นเงินค่าใช้จ่ายในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ” นางสาวธิดา กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 68)