นายณรัล วิวรรธนไกร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป [SPA] เปิดเผยว่าทิศทางการดำเนินงานในปี 68 บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ลงเป็น 1.7 พันล้านบาท จากเดิม 2 พันล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดในปัจจุบัน เดินหน้าลงทุนโครงการ Wellness Destination ในพัทยา ตอบรับเทรนด์ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่มีการเติบโต 8-10% ต่อปีและยังโตต่อเนื่องในอนาคต คาดเปิดโครงการเต็มรูปแบบในไตรมาส 1/70 โดยประมาณการรายได้ปีแรกราว 260 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2568 จัดประชุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 68 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าจดทะเบียนสิทธิการเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (ทรัพย์สินที่เช่า) ซอยนาจอมเทียน 48 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ขนาดพื้นที่ประมาณ 38 ไร่ 1 งาน 10 ตารางวา เพื่อพัฒนาโครงการเป็น ศูนย์สุขภาพ Wellness Destination โดยมีระยะเวลาเช่า 30 ปี ซึ่งมีระยะเวลาปลอดค่าเช่า 18 เดือน
โครงการนี้แบ่งงบลงทุนเป็น 3 ส่วน ได้แก่ สิทธิการเช่า 170 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ชำระให้กับเจ้าของที่ดินแล้ว ส่วนที่สองงบลงทุนปรับปรุง 350 ล้านบาท ระยะเวลาพัฒนา 18 เดือน ทั้งในส่วนของ Wellness ที่จะมีการสร้าง Facility เพิ่มเติม และการปรับปรุงห้องพักของโรงแรมประมาณ 50 ห้อง ให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น ส่วนที่ 3 เป็นค่าเช่า 30 ปี ซึ่งภายในโครงการประกอบด้วย Wellness Center ห้องพัก และร้านอาหาร
บริษัทคาดการณ์ว่าโครงการดังกล่าวจะมีสัดส่วนการรับรู้รายได้จากส่วน Wellness Center ประมาณ 60% ของรายได้รวมทั้งโครงการ ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากโรงแรมและร้านอาหาร ซึ่งแตกต่างจากรีสอร์ททั่วไปที่เน้นรายได้จากห้องพัก โดยอัตราผลตอบแทน (IRR) ของโครงการดังกล่าวอยู่ที่ 15% ระยะเวลาคืนทุน 8.5 ปี งบลงทุนส่วนหนึ่งมาจากเงินกู้สถาบันการเงิน และกระแสเงินสดของบริษัท ซึ่งเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าอัตราการเข้าใช้บริการ (Occupancy) ในปีแรกอยู่ที่ 60%
อย่างไรก็ตามโครงการ Wellness Destination ในช่วงแรก 1-2 ปีที่ยังไม่มีรายได้เนื่องจากอยู่ระหว่างก่อสร้าง อาจได้รับผลกระทบจากค่าเสื่อมราคาจากสิทธิการเช่า หลังจากนั้นจะมีกำไรสุทธิได้ในปีแรกที่เริ่มเปิดให้บริการและจะค่อย ๆ ปรับเพิ่มขึ้น
นายณรัล กล่าวว่า ในปี 69 บริษัทจะโฟกัสการลงทุนโครงการ Wellness Destination ส่งผลให้จำนวนการเปิดสาขาอาจน้อยลงจากปีก่อน แต่หากมีฟื้นที่ในการขยายสาขาที่ดี บริษัทก็ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสในการขยายสาขา ซึ่งปี 68 ตั้งเป้าเปิดสาขา 10 สาขา โดยครึ่งปีหลังทยอยเปิดอีก 6 สาขา อาทิ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพาร์ค และปีหน้าจะติดตามผลการดำเนินของสาขาที่เปิดไปในปีนี้ก่อน
ขณะที่ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง คาดฟื้นตัวจากสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น โดยเริ่มเห็นการกลับมาเดินทางและการเข้าใช้บริการในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยว รวมทั้งมีวัดหยุดปิดเทอม วันชาติจีน เทศกาลต่าง ๆ ของไทย ส่งผลให้คาดว่าจะมีการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่ดีขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวในต่างจังหวัด
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/68 บริษัทมีรายได้รวม 367.27 ล้านบาท ลดลง 6.22% YoY โดยมีกำไรสุทธิ 35.79 ล้านบาท ลดลง 41.97% YoY สาเหตุหลักจากรายได้ที่ลดลงจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติหลักของบริษัท นอกจากนี้บริษัทต้องรับภาระค่าใช้จ่ายคงที่ที่สูงขึ้นจากการขยายสาขา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 68)
