รัสเซีย-สหรัฐฯ ดอดหารือข้อตกลงพลังงานนอกรอบการเจรจาสันติภาพยูเครน

เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ และรัสเซียได้หารือข้อตกลงด้านพลังงานหลายฉบับนอกรอบการเจรจาในเดือนนี้ซึ่งมุ่งสร้างสันติภาพในยูเครนและเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย

การเจรจาข้อตกลงด้านพลังงานดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางของสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ไปยังกรุงมอสโกเมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งเขาได้พบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และคิริลล์ ดมิทริเยฟ ผู้แทนด้านการลงทุนของรัสเซีย และเรื่องดังกล่าวยังถูกหารือในทำเนียบขาวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วย

ข้อตกลงเหล่านี้ได้ถูกพูดถึงสั้น ๆ ในการประชุมสุดยอดที่อะแลสกาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทำเนียบขาวต้องการประกาศข่าวใหญ่หลังการประชุมดังกล่าว โดยเปิดเผยข้อตกลงการลงทุนครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้ทรัมป์รู้สึกว่าเขาประสบความสำเร็จในการเจรจา

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่า ทรัมป์และทีมงานด้านความมั่นคงแห่งชาติยังคงติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียและยูเครนเพื่อจัดประชุมทวิภาคีซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยุติความรุนแรงและสงคราม ขณะที่การเจรจาเรื่องข้อตกลงพลังงานควรเป็นแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อผลประโยชน์ของชาติ

นับตั้งแต่การรุกรานยูเครนในเดือนก.พ. 2565 รัสเซียถูกตัดขาดจากการลงทุนระหว่างประเทศส่วนใหญ่ในภาคพลังงานและไม่สามารถทำข้อตกลงใหญ่ ๆ ได้ อันเนื่องมาจากมาตรการคว่ำบาตร

เจ้าหน้าที่ได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่เอ็กซอน โมบิล (Exxon Mobil) บริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ จะกลับเข้าร่วมโครงการน้ำมันและก๊าซซาคาลิน-1 (Sakhalin-1) ของรัสเซีย โดยเอ็กซอนเคยหารือหลายครั้งกับรอสเนฟต์ (Rosneft) บริษัทน้ำมันของรัฐบาลรัสเซีย หลังได้รับอนุมัติจากสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทั้งอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีทรัมป์

นอกจากนี้ ยังมีการเสนอแนวคิดให้รัสเซียซื้ออุปกรณ์จากสหรัฐฯ สำหรับโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว เช่น Arctic LNG 2 ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก และแนวคิดให้สหรัฐฯ ซื้อเรือตัดน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์จากรัสเซียด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ส.ค. 68)