เนสท์เล่ (Nestlé) กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่สัญชาติสวิส ประกาศสั่งปลดโลรองต์ เฟรกซ์ ออกจากตำแหน่งซีอีโอแบบสายฟ้าแลบ เหตุปกปิดความสัมพันธ์กับพนักงานใต้บังคับบัญชา หลังจากเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 1 ปีเต็ม พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งฟิลิปป์ นาฟราทิล ผู้บริหารลูกหม้อ ขึ้นมาคุมทัพแทนทันที
แถลงการณ์ของเนสท์เล่ที่เผยแพร่ในเวลาต่อมา ระบุว่า การปลดเฟรกซ์เป็นผลมาจากการสอบสวนภายในที่พบว่าเขามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงและไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบ ซึ่งถือเป็นการละเมิดจรรยาบรรณทางธุรกิจอย่างร้ายแรง
พอล บุลเค ประธานกรรมการบริษัท กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “นี่เป็นการตัดสินใจที่จำเป็น … ค่านิยมและธรรมาภิบาลคือรากฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ผมขอขอบคุณโลรองต์สำหรับคุณูปการตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
รายงานข่าวระบุว่า เรื่องราวเริ่มแดงขึ้นหลังมีผู้แจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนภายในองค์กร ทำให้คณะกรรมการต้องตั้งโต๊ะสอบสวนถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้ แต่เนื่องจากยังมีข้อกังขาอยู่ จึงมีการสอบสวนครั้งที่สองโดยมีบริษัทภายนอกเข้ามาร่วมด้วย จนได้หลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เฟรกซ์เคยให้การปฏิเสธเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เนสท์เล่ยืนยันว่าจะไม่มีการจ่ายเงินชดเชยใด ๆ ให้กับเฟรกซ์ทั้งสิ้น
กรณีอื้อฉาวของเฟรกซ์นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงกระแสการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้บริหารระดับสูงที่เข้มข้นขึ้นในเวทีโลก โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก.ค. แอนดี ไบรอน ซีอีโอของบริษัทแอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ก็เพิ่งประกาศลาออก หลังมีภาพปรากฏว่าเขากำลังโอบกอดพนักงานคนหนึ่งระหว่างชมคอนเสิร์ตของวงโคลด์เพลย์ (Coldplay)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 68)
