อัยการรัฐยูทาห์ประกาศเมื่อวันอังคาร (16 ก.ย.) ว่า จะเดินหน้ายื่นขอโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ต้องหาในคดีลอบสังหาร ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยม พร้อมเปิดเผยหลักฐานใหม่ ซึ่งรวมถึงข้อความแชตที่เชื่อว่าผู้ต้องหาใช้สารภาพผิดกับคนใกล้ชิด
เอกสารของอัยการที่ยื่นต่อศาลได้เปิดเผยข้อความที่ ไทเลอร์ โรบินสัน วัย 22 ปี ส่งถึงรูมเมตผู้เป็น “ชายที่กำลังอยู่ในช่วงข้ามเพศไปเป็นหญิง” และเป็นคนรักของโรบินสัน โดยตอบคำถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุว่า “ผมทนความเกลียดชังของเขาไม่ไหวแล้ว”
โรบินสันถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ซุ่มยิงด้วยปืนไรเฟิลเพียงนัดเดียวจากบนดาดฟ้าอาคาร กระสุนเจาะเข้าที่ลำคอของเคิร์กขณะที่เขาอยู่ในมหาวิทยาลัยยูทาห์ แวลลีย์ เมืองโอเรม เมื่อวันพุธที่แล้ว (10 ก.ย.)
เมื่อวันอังคาร สำนักงานอัยการเขตยูทาห์เคาน์ตี นำโดยเจฟฟรีย์ เกรย์ ได้ตั้งข้อหาโรบินสันรวม 7 กระทง อาทิ ฆาตกรรมในลักษณะที่เป็นเหตุฉกรรจ์, การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม (จากการทำลายหลักฐาน) และการยุ่งเหยิงต่อพยาน (จากการขอให้รูมเมตลบข้อความที่อาจใช้มัดตัวเขาได้)
เกรย์แถลงข่าวว่า “การตัดสินใจขอโทษประหารชีวิตนั้น เป็นไปโดยอิสระ และพิจารณาจากพยานหลักฐาน พฤติการณ์ และลักษณะของคดีเท่านั้น”
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน โรบินสันได้ขึ้นศาลครั้งแรกผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากเรือนจำ ในสภาพที่ไม่ได้โกนหนวดเคราและสวมชุดสำหรับผู้ต้องขังที่มีความเสี่ยงฆ่าตัวตาย เขามีสีหน้านิ่งเฉย แต่ตั้งใจฟังขณะผู้พิพากษาอ่านข้อกล่าวหาและแจ้งว่าเขาอาจได้รับโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
ทั้งนี้ อัยการได้เพิ่ม “เหตุฉกรรจ์” เข้าไปในข้อหาฆาตกรรมและข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืน โดยชี้ว่า โรบินสันเลือกเป้าหมายจากความคิดเห็นทางการเมือง และกระทำโดยรู้ว่าจะมีเด็กอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งตามกฎหมายของรัฐยูทาห์ ข้อหาฆาตกรรมในลักษณะที่เป็นเหตุฉกรรจ์เท่านั้นที่จะมีโทษถึงประหารชีวิต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 68)
