จีนประกาศตรึงดอกเบี้ย แม้เฟดลดนำร่อง นักวิเคราะห์มองตลาดหุ้น-ส่งออกยังแข็งแกร่ง

ธนาคารกลางจีน (PBOC) คงอัตราดอกเบี้ย Reverse Repo ระยะ 7 วันไว้ที่ 1.40% ในวันนี้ (18 ก.ย.) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทางการจีนยังไม่เร่งดำเนินมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เพิ่งมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็ตาม

PBOC ได้อัดฉีดเงิน 4.87 แสนล้านหยวน (6.856 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านการขายพันธบัตรให้กับธนาคารพาณิชย์พร้อมข้อตกลงซื้อคืนในระยะ 7 วัน (reverse repo) โดยทำการซื้อขายในตลาดเปิด ซึ่งอัตราดอกเบี้ย Reverse Repo ถือเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลักของจีน

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การส่งออกที่ยังแข็งแกร่งและตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้กำหนดนโยบายสามารถชะลอการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แม้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า แม้เศรษฐกิจชะลอตัวตามคาด แต่ขนาดของการชะลอตัวไม่ได้รุนแรงอย่างที่คาดไว้ อีกทั้งรายละเอียดจากตัวเลขกิจกรรมเดือนส.ค. และข้อมูลเชิงลึกจากพื้นที่จริงบ่งชี้ว่า ความแข็งแกร่งของการส่งออกจีนมีแนวโน้มคงอยู่ต่อไป และรัฐบาลอาจเลื่อนการสนับสนุนนโยบายบางส่วนจากปีนี้ไปเป็นปีหน้า

ทั้งนี้หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของโนมูระมองว่า แม้ข้อมูลเศรษฐกิจออกมาไม่สดใส แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อาจเสี่ยงทำให้เกิดฟองสบู่ในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม หากตลาดปรับตัวลง ธนาคารกลางจีนอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อยราว 0.10% ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนยังชี้ว่า มีโอกาสที่จีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงปลายปี เพื่อให้เศรษฐกิจจีนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกยังคงไปตามเป้าการเติบโตปีนี้ที่ประมาณ 5%

นักวิเคราะห์อาวุโสของ ANZ ระบุว่า ยังมีโอกาสผ่อนคลายนโยบายการเงินในไตรมาส 4 ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันยังไม่มากพอที่จะกระทบเป้าหมายการเติบโตต่อปีที่ประมาณ 5% ขณะที่แผนระยะ 5 ปี ชุดที่ 15 และการปฏิรูปโครงสร้างระยะยาวยังมีความสำคัญสูงสุด และหลังการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 4 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน การมุ่งเน้นด้านนโยบายอาจกลับไปที่การเติบโตระยะสั้น โดยผู้นำจีนจะจัดการประชุมครั้งที่ 4 ดังกล่าวในเดือนต.ค.นี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 68)