สนามบินโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการคับคั่งที่สุดในกลุ่มประเทศนอร์ดิก ได้กลับมาเปิดให้บริการแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (23 ก.ย.) หลังต้องระงับทุกเที่ยวบินขึ้น-ลงนานเกือบ 4 ชั่วโมง เนื่องจากมีผู้พบเห็นโดรนบินอยู่ในพื้นที่ ขณะเดียวกัน สนามบินออสโลในนอร์เวย์ก็ประกาศปิดน่านฟ้าด้วยเหตุผลเดียวกัน
ยาค็อบ ฮันเซน รองผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจโคเปนเฮเกน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนเพื่อระบุชนิดของโดรน แต่ตอนนี้โดรนได้หายไปแล้วและยังไม่สามารถยึดโดรนลำใดได้ ทั้งนี้ ทางการเดนมาร์กและนอร์เวย์จะประสานงานกันเพื่อตรวจสอบว่าทั้งสองเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่
ตำรวจเดนมาร์กเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (22 ก.ย.) ว่า พบโดรนขนาดใหญ่ 2-3 ลำบินอยู่ใกล้สนามบิน ทำให้สนามบินต้องสั่งระงับการให้บริการตั้งแต่เวลา 20.26 น. ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ข้อมูลจาก FlightRadar ซึ่งเป็นบริการติดตามเที่ยวบิน ระบุผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เที่ยวบินราว 50 เที่ยวต้องเปลี่ยนไปลงจอดที่สนามบินอื่น
ด้านสนามบินออสโล โฆษกของ Avinor ผู้ให้บริการสนามบินของนอร์เวย์ แถลงว่าได้สั่งปิดน่านฟ้าตั้งแต่เที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น และเปลี่ยนเส้นทางของทุกเที่ยวบินไปยังสนามบินที่ใกล้ที่สุด
หลังกลับมาเปิดให้บริการ สนามบินโคเปนเฮเกนได้ประกาศผ่านเอ็กซ์ว่าจะยังคงมีความล่าช้าและมีการยกเลิกเที่ยวบินบางส่วนต่อไป จึงขอให้ตรวจสอบข้อมูลกับสายการบินโดยตรง
เหตุการณ์ปิดสนามบินครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากความวุ่นวายที่สนามบินหลายแห่งในยุโรปต้องเผชิญในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (19 ก.ย.) การโจมตีทางไซเบอร์ได้ทำให้ระบบเช็กอินและระบบจัดการการขึ้นเครื่องของบริษัท Collins Aerospace (บริษัทในเครือ RTX) ล่มลง ซึ่งกระทบการให้บริการของสนามบินฮีทโธรว์ในลอนดอน รวมถึงสนามบินในเบอร์ลินและบรัสเซลส์ และผลกระทบดังกล่าวยังคงสร้างความปั่นป่วนให้กับการเดินทางทั่วทั้งภูมิภาค ต่อเนื่องมาจนถึงวันจันทร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ย. 68)
