
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (1 ต.ค.) ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 14 ในไตรมาส 3/2568 จากระดับ 13 ในไตรมาส 2 โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเซรามิกและการต่อเรือ
ดัชนีทังกันซึ่งเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่นของบริษัทต่าง ๆ ในภาคการผลิต เช่น บริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง แต่ก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 15
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิตซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น อยู่ที่ระดับ 34 ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับในไตรมาส 2 ซึ่งมีการสำรวจในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีทังกันแสดงถึงเปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่รายงานว่าภาวะทางธุรกิจเป็นไปในทิศทางที่ดี ลบด้วยเปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่รายงานว่าภาวะทางธุรกิจเป็นไปในทิศทางที่ย่ำแย่
ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น BOJ ระบุว่าบริษัทญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 145.68 เยนต่อดอลลาร์ในปีงบการเงิน 2568 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย. เทียบกับระดับ 145.72 เยนต่อดอลลาร์ ในการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนมิ.ย.
ข้อมูลทังกันที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้ เป็นหนึ่งในข้อมูลที่ BOJ จะใช้ประกอบการพิจารณาในการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปในช่วงปลายเดือนต.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 68)