
หุ้น DELTA ช่วงบ่ายย่อลงจากจุดพีคที่ทะลุ 170 บาทอีกครั้ง โดยขึ้นไปแตะ 170.50 บาทในการซื้อขายภาคเช้า แต่เมื่อเวลา 14.17 น.ราคาย่อลงมาที่ 167.50 บาท บวก 5.68% หรือเพิ่มขึ้น 9.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.15 พันล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 160.0 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 170.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 159.50 บาท
บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) [DELTA] ชี้แจงข้อสอบถามของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตามที่วันนี้สภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ DELTA มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเพื่อให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนได้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วน บริษัทฯชี้แจงว่ายังไม่มีพัฒนาการใดที่สำคัญที่ยังไม่ได้เปิดเผย หากมีข้อมูลหรือพัฒนาการใด ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของราคาหลักทรัพย์จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ขณะที่ บล.บัวหลวง แนะนำ ซื้อเก็งกำไร DELTA ราคาเป้าหมาย: 180 บาท (ราคาล่าสุด 158.50 บาท, 30 ก.ย. 68) กลุ่มอุตสาหกรรม: Electronics (มุมมอง Neutral)
ภาพรวมล่าสุด
– DELTA มีแนวโน้มทำกำไร สูงสุดใหม่ในไตรมาส 3/68
– ราคาหุ้นสร้างฐานที่ ~160 บาท มองว่ายังมีโอกาสเก็งกำไรต่อได้
– อย่างไรก็ตาม หุ้นยังมี ความเสี่ยง จากมูลค่าหุ้น (Valuation) ที่สูงมาก PER ~107 เท่าข้อจำกัดน้ำหนักในดัชนี SET50/100 ที่เริ่มจำกัดอิทธิพล
ผลประกอบการไตรมาส 2/68
– อัตรากำไรขั้นต้น (Gross margin) ลดลงเล็กน้อยเป็น 25% (บาท)
– สาเหตุหลัก: ค่าเงินบาทแข็งขึ้น ~3% กดดันมาร์จิ้น ~0.4%
– รายได้รวม +7% QoQ แต่สัดส่วนรายได้จาก Data Center & AI ลดเหลือ 42% (จาก 45%)
– กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน (+25% QoQ) ช่วยดันรายได้ แต่กำไรต่ำกว่ากลุ่มอื่น
แนวโน้มไตรมาส 3/68
– คาดรายได้รวม +10% QoQ
– กลุ่ม Data Center จะกลับมาเด่น โต +25% QoQ
– กำไรหลักคาด 6.4–6.5 พันลบ. (+25–30% QoQ, +3–5% YoY)
– มีโอกาสทำราคาสูงสุดใหม่ที่ 173.5 บาท แต่ต้องระวังความผันผวน เนื่องจากมูลค่าหุ้นสูงและอาจถูกจับตาโดยตลาด
แนวโน้มไตรมาส 4/68
– โดยปกติจะมี ค่าใช้จ่ายตามฤดูกาลเพิ่มขึ้น และต้องจ่ายค่าสิทธิให้ DELTA Taiwan
– กำไรหลักคาด ลดลง QoQ แต่จะ ฟื้น YoY
– สัดส่วนรายได้จาก Data Center จะขยับขึ้นเป็น 52% ของรายได้รวม
มองไปข้างหน้า (ปี 2569 เป็นต้นไป)
– Data Center จะยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก คาดโต +35% ในปี 2569 คิดเป็น ~55% ของรายได้รวม
– Morgan Stanley คาดอุตสาหกรรมพลังงานและระบบระบายความร้อนโต ~30% ต่อปี (69–73)
– ราคาเป้าหมายรอบรีบาวด์นี้: 175–180 บาท
– แนะนำทยอย ขายทำกำไรปลายปี 68-ต้นปี 69 เพราะมูลค่าตึงตัว + ความเสี่ยงตามฤดูกาล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 68)